“กรมขนส่ง” ชงคมนาคม ดันศูนย์ขนส่งสินค้า สุราษฎร์ธานี 2.4 พันล้าน

19 มี.ค. 2568 | 05:00 น.

“กรมขนส่งทางบก” ดันแผนศูนย์ขนส่งสินค้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ 150 ไร่ วงเงิน 2.4 พันล้านบาท ชงคมนาคมไฟเขียวไม่เกินมิ.ย.นี้ ดึงเอกชนร่วมทุน PPP สัญญาสัมปทาน 20 ปี

KEY

POINTS

  • “กรมขนส่งทางบก” ดันแผนศูนย์ขนส่งสินค้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ 150 ไร่ วงเงิน 2.4 พันล้านบาท ชงคมนาคมไฟเขียวไม่เกินมิ.ย.นี้
  • ดึงเอกชนร่วมทุน PPP สัญญาสัมปทาน 20 ปี
  • ลุยตอกเสาเข็มภายในปี 70 คาดเปิดให้บริการปี 72   

ที่ผ่านมา “กรมการขนส่งทางบก” เดินหน้าพัฒนาโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าจังหวัดนครพนม ล่าสุดยังมีแผนพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าสายใต้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่างต่อเนื่อง  

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี วงเงิน 2,466 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินจากงบประมาณ 1,708.89 ล้านบาท และเงินจากการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) 757.14 ล้านบาท ปัจจุบันกรมฯอยู่ระหว่างเสนอต่อกระทรวงคมนาคมขอความเห็นชอบหลักการของโครงการฯ ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2562 หรือ PPP ไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้ 

ขณะเดียวกันตามแผนหากกระทรวงคมนาคมเห็นชอบแล้วจะเสนอต่อคณะกรรมการ PPP และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติดำเนินการร่วมลงทุน ภายในเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2568 หลังจากนั้นจะดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน (พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน) ภายในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2569 และจ่ายค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ภายในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2569
 

ทั้งนี้กรมฯเตรียมจัดทำร่างประกาศเชิญชวนและร่างเอกสารการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ภายในเดือนเมษายน 2569 โดยโครงการฯนี้ใช้รูปแบบการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP Net Cost) สัญญาสัมปทาน 20 ปี คาดว่าจะลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนและเริ่มก่อสร้างภายในปี 2570 พร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2572 

สำหรับโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขนาดพื้นที่ 150 ไร่  ภายในพื้นที่มีอาคารรวบรวมและกระจายสินค้า ซึ่งเป็นฟังก์ชันหลักของ Truck Terminal ประกอบด้วย คลังสินค้า, ลานเปลี่ยนถ่ายสินค้า (CY) ,อาคารสำนักงาน ,โรงอาหาร ฯลฯ ทั้งนี้พื้นที่โครงการฯ เบื้องต้นมีตำแหน่งที่ตั้งติดถนนทางหลวงหมายเลข 41 (สายเอเชีย) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เชื่อมต่อการขนส่งหลักของภาคใต้

ทั้งนี้ศูนย์ขนส่งสินค้าฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมการรวบรวมและกระจายสินค้าและอำนวยความสะดวกด้านโลจิสจิกส์ในพื้นที่ รวมถึงเป็นจุดคัดกรองเปลี่ยนถ่ายการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางระหว่างภาคใต้ตอนล่างกับภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบขนส่งโลจิสติกส์ลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มขีดสามารถการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง 
 

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันกรมขนส่งฯมีแผนจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาเพื่อออกแบบและพัฒนาระบบการกำกับดูแลการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกผ่านระบบดิจิทัล วงเงิน 23.2584 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณปี 2569 หลังจากนั้นจะกำหนดร่างเอกสารการประกาศประกวดราคา (ทีโออาร์) และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือนมีนาคม 2569 โดยออกแบบและพัฒนาระบบภายในเดือนเมษายน-ธันวาคม 2569 คาดว่าระบบจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2569

สำหรับสาระสำคัญในการพัฒนาระบบครั้งนี้เป็นการพัฒนาระบบติดตาม ตรวจสอบ แจ้งเตือน รวมถึงการรายงานผลผ่านระบบออนไลน์ และพัฒนาระบบการยื่นคำขอคัดเลือก/ออกและต่ออายุ Permit ผ่านระบบออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลผลการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน กับกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตลอดจนการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ MDM ระบบงานตรวจการขนส่งทางบก ระบบ 1584 และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 
                      “กรมขนส่ง” ชงคมนาคม ดันศูนย์ขนส่งสินค้า สุราษฎร์ธานี 2.4 พันล้าน                             
นอกจากนี้ระบบดังกล่าวสามารถกำกับดูแลการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และประกาศที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดเอกสาร ประหยัดเวลาค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน รวมถึงเจ้าหน้าที่สามารถกำกับดูแลผู้ประกอบการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ลดเอกสาร ลดพื้นที่ในการจัดเก็บ

เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,080 วันที่ 20 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2568