สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ตามรายงานของนายกสมาคมโรงแรมไทย คาดว่ารายได้ของธุรกิจโรงแรมจะลดลงประมาณ 10-15% ในช่วง 2 สัปดาห์
และ สสว. ประเมินว่าอาจกระทบเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวอาจเลือกเปลี่ยนแปลงจุดหมายปลายทางไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า
อย่างไรก็ดี ในระยะยาวหากไม่มีเหตุแผ่นดินไหวหรือ Aftershock ที่รุนแรง คาดว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวจะเข้าสู่ระดับปกติได้ภายใน 1-2 เดือน
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการซ่อมแซมปรับปรุงอาคาร เช่น ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและธุรกิจก่อสร้างจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาทในช่วง 3 เดือนข้างหน้า
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีผู้ประกอบการ SME ประมาณ 193,891 ราย มีการจ้างงานประมาณ 709,010 คน ต้องเผชิญความท้าทายทั้งต้นทุนค่าก่อสร้าง ต้นทุนแรงงานและการแข่งขันที่สูงจากต่างประเทศ ราคาที่ดินและอุปกรณ์ก่อสร้างเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และปัจจัยด้านความปลอดภัยที่จะถูกผู้บริโภคนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อในอนาคตเพิ่มขึ้น
ส่วนธุรกิจก่อสร้างมีผู้ประกอบการ SME ประมาณ 142,138 ราย คาดว่าการลงทุนภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า จะทำให้การเติบโตในปี 2568 ขยายตัว 3% แต่โครงการก่อสร้างของภาครัฐอาจหยุดชะงักในระยะสั้นเพื่อตรวจสอบคุณภาพโครงสร้าง
กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาตรวจสอบอาคารจะเป็นที่ต้องการในระยะสั้น รวมถึงการเข้าตรวจรับพื้นที่อาคารสูงต่อไปในอนาคต
ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการจัดการภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงภาคเอกชน ประชาชน และผู้รับเหมาควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณภาพ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างอาคาร เพื่อป้องกันความสูญเสียในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนและนักลงทุนเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจภายในและระหว่างประเทศ