นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยในงานเสวนาโต๊ะกลมหัวข้อ “SMR ทางเลือก หรือ ทางรอด GREEN ENERGY” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor : SMR)
จะช่วยเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดมากกว่า 50% ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่ปัจจุบันเป็นโซลาร์ ลม
ทั้งนี้ การต้องพึ่งพาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไปก็ไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้น SMR จึงจำเป็นเพราะใช้พื้นที่น้อยลงมีความปลอดภัยมากกว่าในอดีต สามารถผลิตและติดตั้งจากโรงงานได้
โดย SMR จะเป็นทางออกและทางรอดเพื่อมาตอบโจทย์พลังงานสีเขียว ซึ่งต้องการคาร์บอนต่ำและความเสถียร สามารถผลิตไฟได้ตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยผสมผสานโรงไฟฟ้าปัจจุบันให้ไทยไปสู่เป้าหมาย Net Zero
สำหรับร่างแผน PDP จากการบรรจุ SMR จำนวน 600 เมกะวัตต์ ปี 2580 นั้น ระหว่างรับฟังความเห็นในปีที่ผ่านมา ภาคเอกชนตอบรับดีมาก หลังจากเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2007-2015 จากการบรรจุแผนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 โรงจำนวน 5 พันเมะวัตต์
แต่จากปัญหาญี่ปุ่นจึงขยับไป และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีบทเรียนโรงไฟฟ้าถ่านหิน เมื่อถ่านหินใช้ไม่ได้ นิวเคลียร์จึงกลับมา โดย SMR จึงต่อยอดจุดอ่อนทั้งหมดออก ดังนั้น ในช่วง 10 ปีนี้จะเป็นช่วงเตรียมความพร้อม หรือเตรียมการเพื่อให้เกิด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเลือกคือเทคโนโลยี ซึ่งมีสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และจีน ถือเป็นประเทศชั้นนำในโลกที่สนใจเทคโนโลยี ไทยมีเวลาที่จะเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดให้ประเทศ
“ในแผน PDP คือการส่งสัญญาณการลงทุน การเตรียมความพร้อมเป็นอีกทางเลือกที่เป็นทางรอดตอบโจทย์ความมั่นคง ราคา และมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน"