เงินหมื่นดิจิทัล เฟส 3 จ่อชงครม. คลังแจ้งไทม์ไลน์แจก 2.7 ล้านคน

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท (Digital Wallet) สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี รวมทั้งหมด 2.7 ล้านคน หลังจากโครงการได้ผ่านการเห็นชอบจากประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรียบร้อยแล้ว

"ตอนนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการ หลังจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่เห็นชอบในหลักการของโครงการแล้ว ต่อไปกระทรวงการคลังจะนำเสนอครม.เห็นชอบ ซึ่งไม่น่าจะนาน แต่จะไม่ทันเสนอเข้าในสัปดาห์หน้า เพราะต้องใช้เวลาเวียนขอรับความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ก่อน จึงน่าจะใช้เวลาอีกระยะ แต่จะเร่งให้เร็วขึ้น" นายเผ่าภูมิ ระบุ

เมื่อถามว่า ตามไทม์ไลน์ล่าสุดของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 รัฐบาลจะเร่งเสนอภายในเดือนมีนาคม 2568 นี้ ทันหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า จะพยายามเร่งให้ได้เร็วที่สุด

ส่วนเงื่อนไขของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 นั้น ขณะนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี และลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ

ขณะที่ประเภทของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนั้น ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนรายละเอียดอะไร โดยรัฐบาลได้ล็อกร้านค้าและกำหนดขอบเขตของการใช้จ่ายเอาไว้ ซึ่งร้านค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เบื้องต้นประกอบไปด้วย ปั๊มน้ำมัน ร้านทอง ร้านเพชร และร้านอัญมณี

ส่วนแนวทางการลงทะเบียนเพื่อสำรวจ ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ล่าสุด นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.เช่นกัน หลังจากเรื่องนี้ได้ผ่านการเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปก่อนหน้านี้แล้ว

"ระยะเวลาในการเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนนั้น รัฐบาลขอดูช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง เพราะอย่าลืมว่าในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 จะต้องเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนด้วย ซึ่งรัฐบาลก็ไม่อยากให้เป็นช่วงเดียวกัน เพราะจะเกิดความสับสน จึงขอดูระยะเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง" รมช.คลัง กล่าว

รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจะรักษาโมเมนตัมเศรษฐกิจในปี 2568 นี้ ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดแรงส่งต่อเศรษฐกิจในระยะถัดไป โดยรัฐบาลมีวงเงินงบประมาณภายใต้งบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมไว้รองรับการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ภายใต้วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะขอรอดูจังหวะและรูปแบบที่เหมาะสม เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก 

สำหรับมาตรการด้านเศรษฐกิจที่เตรียมผลักดันออกมา เบื้องต้นจะมีด้วยกันหลายรูปแบบทั้งการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณอื่น ๆ การใช้กลไกด้านภาษี หรือด้านสินเชื่อ เพื่อกระจายเงินลงในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาสที่ 2-3 ปี 2568