แจกเงิน 10,000 เฟส 3 เช็กเงื่อนไขเบื้องต้นร้านค้าเข้าร่วมโครงการ

14 มี.ค. 2568 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มี.ค. 2568 | 10:56 น.
1.6 k

แจกเงิน 10,000 เฟส 3 กรมการค้าภายใน แจ้งเงื่อนไขเบื้องต้นร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต Digital Wallet และ วิธีการใช้จ่าย

“ฐานเศรษฐกิจ” เกาะติดความคืบหน้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 อย่างต่อเนื่อง ความคืบหน้าล่าสุด คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้อนุมัติแจกเงินหมื่น เฟส 3 ให้กับกลุ่มอายุ 16-20 ปี ใช้จ่ายผ่านแอปทางรัฐ ไม่สามารถกดเป็นเงินสด ตั้งเป้าหมายแจกเงินดิจิทัลภายในไตรมาส 2/2568 เพื่อใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมโครงการผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

 

เช็กเงื่อนไขเบื้องต้นร้านค้าร่วมโครงการแจกเงินหมื่น เฟส 3

กรมการค้าภายใน ร่วมกับ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมธนาคารไทย แล ะสมาคมผู้ให้บริการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ไทย และผู้ผลิตทั่วประเทศ ได้กำหนดให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการแจกเงิน 10,000 เฟส 3 เปิดรับสมัครภายในเดือนเมษายน –พฤษภาคม 2568

 

ลงทะเบียนรับสมัครผ่านแอปทางรัฐ

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เปิดให้ร้านค้ารเข้ามาลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารต่าง ๆ เช่น QR Code Tag 30 เพื่อใช้ในการรับชำระเงินในการซื้อขาย โดยสำหรับร้านค้าทั่วไป นอกเหนือจากการลงทะเบียนล่วงหน้ากับกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้สมัครผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ประมาณเดือน เม.ย. - พ.ค. 2568

ข้อจำกัดการใช้จ่าย

การใช้จ่ายเงินหมื่นเฟส 3  ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของประชาชน และการใช้จ่ายเงินดิจิทัลของร้านค้า สามารถใช้จ่ายได้กับทุกร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า 

ทั้งนี้การถอนเงินสด ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันที หลังประชาชนใช้จ่าย ร้านค้าทุกประเภทจะสามารถถอนเงินสดได้ เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป  

 

วิธีการใช้จ่ายเงินสามารถใช้จ่ายได้ ดังนี้

วิธีการใช้จ่าย Digital Wallet

สำหรับวิธีการใช้จ่ายเงิน 10,000 เฟส 3 เมื่อพลิกไปดูเงื่อนไข โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่ได้เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ https://digitalwallet.go.th/ วิธีการใช้จ่ายดังนี้

รอบที่ 1 เป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก

  • ประชาชนต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
  • ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง
  • เป็นการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยประชาชนต้องมีที่อยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอเดียวกันกับสถานประกอบการของผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็ก
  • การซื้อ-ขายสินค้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้ากันแบบพบหน้า (face-to-face) และไม่มีกระบวนการใด ๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อหรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ในแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว

รอบที่ 2 เป็นต้นไป เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า

  • ผู้ประกอบการร้านค้าต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าอีกแห่งหนึ่ง
  • ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง.

ที่มา: