รมต.เศรษฐกิจอาเซียน เคาะแผนใหญ่ รับมือผลกระทบ "ทรัมป์ 2.0"

04 มี.ค. 2568 | 12:46 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2568 | 14:13 น.

"พาณิชย์" ร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนัดแรก เคาะแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคในปี 68 เร่งสรุปความตกลงเศรษฐกิจสำคัญหลายฉบับ พร้อมหาแนวทางรับมือผลกระทบทรัมป์ 2.0

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ณ รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจสำคัญของปี 2568 ภายใต้วาระประธานอาเซียนของมาเลเซีย

 

รมต.เศรษฐกิจอาเซียน เคาะแผนใหญ่ รับมือผลกระทบ \"ทรัมป์ 2.0\"

 

นางสาวโชติมา กล่าวว่า อาเซียนจะเร่งรัดการเจรจาความตกลงเศรษฐกิจสำคัญหลายฉบับให้บรรลุผลในปีนี้ โดยเฉพาะการเจรจายกระดับ FTA 3 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA 3.0) ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย (AITIGA) และเร่งสรุปผลการเจรจากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน (DEFA) รวมทั้งการประกาศเริ่มต้นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ 

  • ซาอุดีอาระเบีย 
  • คูเวต 
  • โอมาน 
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 
  • กาตาร์ 
  • บาห์เรน 

เพื่อจะขยายความหลากหลายของการค้าไปยังตลาดนอกภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น    

สำหรับอาเซียนเป็นกลุ่มที่เศรษฐกิจเติบโตได้ดี คาดในปี 2568 GDP ของกลุ่มจะขยายตัวถึง 4.7% ซึ่งขยายตัวเชิงบวกต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้า 

 

รมต.เศรษฐกิจอาเซียน เคาะแผนใหญ่ รับมือผลกระทบ \"ทรัมป์ 2.0\"

 

อย่างไรก็ตามที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าภูมิภาคยังคงเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และจะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ 2.0 ได้ยาก โดยมีความห่วงกังวลถึงผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของภูมิภาค จึงให้เตรียมความพร้อมโดยจะเน้นเสริมการค้าและการลงทุนภายในกลุ่มให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมกับมุ่งกระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายเห็นประโยชน์ร่วมกัน ผ่านกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอาเซียน-สหรัฐฯ ที่มีอยู่ 

นอกจากนี้ อาเซียนได้สรุปร่างแผนยุทธศาสตร์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 5 ปี (2569-2573) ภายใต้วิสัยทัศน์อาเซียน 20 ปีใหม่เรียบร้อยแล้ว กำหนดจะเสนอผู้นำอาเซียนรับรองในเดือนพฤษภาคมนี้ และได้นัดประชุมติดตามผลการดำเนินการครั้งถัดไปในเดือนกันยายน 2568 ก่อนนำเสนอผลลัพธ์สำคัญต่อผู้นำอาเซียนในปลายปีนี้

ทั้งนี้ ในปี 2566 อาเซียนมีขนาดเศรษฐกิจมูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน เยอรมนี และญี่ปุ่น และมีสัดส่วน GDP คิดเป็น 3.6% ของ GDP โลก โดยในปี 2567 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 120,628 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.3% จากปีก่อนหน้า 

 

รมต.เศรษฐกิจอาเซียน เคาะแผนใหญ่ รับมือผลกระทบ \"ทรัมป์ 2.0\"

 

โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 70,165 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.6% และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า50,463 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และอัญมณีและเครื่องประดับ และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ แผงวงจรไฟฟ้า และเคมีภัณฑ์