ในช่วงที่ร่างกฎหมาย Entertainment Complex กำลังเข้าเปิดรับฟังความคิดเห็น "ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)" ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาพรวมของนโยบายดังกล่าว พร้อมวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย และเสนอแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย
ดร.นณริฏ อธิบายว่า Entertainment Complex เป็นกิจกรรมในภาคบริการเพื่อความบันเทิง ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทย โดยพื้นฐานแล้วบริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานะการเงินมั่นคง สามารถดูแลความต้องการพื้นฐานของตนเองได้ดีแล้ว และต้องการความตื่นเต้นจากการเสี่ยงโชค
"ในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา มาเก๊า หรือสิงคโปร์ ที่มี Entertainment Complex นั้น ผู้เล่นส่วนใหญ่มีฐานะดีและเล่นเพื่อความสนุก แต่คนไทยที่ไม่มีฐานะ ไม่มีความพร้อม มักเล่นเพื่อหวังรวย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล" ดร.นณริฏกล่าว
นักวิชาการรายนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาราว 40 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ทำให้เกิดคำถามว่าทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีอยู่จะสามารถรองรับได้หรือไม่ ซึ่งนำไปสู่แนวคิด "Man-made Tourism" หรือการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่เพื่อลดความแออัดในแหล่งท่องเที่ยวเดิม
"ล่าสุดเราเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวของไทยกับญี่ปุ่น เฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ปรากฏว่าญี่ปุ่นเริ่มแซงหน้าเรา จากที่เราเคยชนะเขามาตลอด นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราต้องสร้างความหลากหลายให้ภาคท่องเที่ยว" ดร.นณริฏ กล่าว
นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอระบุว่า Entertainment Complex สามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้หลายด้าน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี ภาคท่องเที่ยวยังเป็นกลจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นประกอบด้วย รายได้จากค่าใบอนุญาตและค่าเช่าที่ดินให้แก่รัฐ การลงทุนก่อสร้างที่มีมูลค่ามหาศาล การจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น พนักงานในสถานบันเทิง พนักงานทำความสะอาด รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจบริการอื่นๆ
"ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ตั้งแต่คนงานก่อสร้าง พนักงานที่จะไปอยู่ในกาสิโน และลูกค้า ก็ต้องกินต้องใช้ เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายที่จะเกิดขึ้นได้" ดร.นณริฏกล่าว
อย่างไรก็ตาม ดร.นณริฏได้เตือนถึงผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากเปิดให้คนไทยเข้าใช้บริการโดยไม่มีการคัดกรองที่เข้มงวด
"กาสิโนไม่ใช่กิจกรรมที่สร้างผลประโยชน์ใหม่เหมือนการปลูกข้าวหรือปลูกผลไม้ที่มีผลผลิตเกิดขึ้น แต่เป็นกิจกรรมที่ทำให้รายได้ของคนเล่นลดลง เรียกง่ายๆ ว่าเอารายได้ของเราไปแลกกับความสุข ณ ตรงนี้เอง" ดร.นณริฏอธิบาย
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสังคมตามมา เนื่องจากกิจกรรมประเภทนี้มักดึงดูดธุรกิจเทา-ดำอื่นๆ เช่น ยาเสพติด การค้าประเวณี การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมประเภทต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนโดยรอบหากภาครัฐไม่มีกลไกการควบคุมที่รัดกุม
ดร.นณริฏ ยังแสดงความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับความเสี่ยงในการขยาย Entertainment Complex ไปสู่รูปแบบออนไลน์ "สิ่งที่น่ากังวลใจคือ มันไม่ควรจะดันไปถึงออนไลน์ อันนี้สำคัญเพราะมันเรกกูเลตได้ยากกว่า ทั้งในเรื่องของการเล่นแบบเป็นธรรม เรื่องของการฟอกเงิน รวมไปถึงการควบคุมต่างๆ เนื่องจากมันไม่มี physical ทำให้กิจกรรมตรงนี้มันอันตรายมาก ผลกระทบทางสังคมไม่สามารถควบคุมได้โดยง่าย"
จากการวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย ดร.นณริฏ ได้เสนอแนวทางการพัฒนา Entertainment Complex ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ดังนี้
1. เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ
"สิ่งสำคัญคือควรจะเน้นลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก ลูกค้าไทยจะเข้าได้ก็ต่อเมื่อคุณต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณมีฐานะ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้ อันนี้สำคัญเพื่อจะลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เล่นและครอบครัวของผู้เล่นเป็นหลัก"
2. จัดตั้งกองทุนแก้ไขปัญหาชุมชน
นักวิชาการเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการ เพื่อนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชน เช่นเดียวกับที่มาเก๊าดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจรติดขัด อาชญากรรม การค้ามนุษย์ หรือการฟอกเงิน
3. กระจายการพัฒนาไปยังพื้นที่ห่างไกล
"ถ้าเป็นไปได้ ผมจะเป็นกลุ่มที่คิดว่าสถานที่ท่องเที่ยวในไทยเนี่ยมันกระจุกตัวค่อนข้างมาก นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในไทยเรามาแค่ไม่กี่จังหวัด ขณะที่จังหวัดอื่นๆ แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเลย มีรายได้น้อยกว่ามาก คุณไปสร้างในพื้นที่ห่างไกลหน่อยไหม มันสามารถควบคุมได้ง่ายกว่า ต้นทุนต่างๆ ก็ถูกกว่า และเป็นการกระจายความแออัดออกไป รวมทั้งปัญหาสังคมก็สามารถควบคุมได้ดีกว่า"
4. สร้างกลไกการบริหารจัดการและการตรวจสอบที่โปร่งใส
ดร.นณริฏ ให้ความสำคัญกับการสร้างกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ (Check and Balance) "คำถามคือใครจะเป็นคนตรวจสอบอำนาจต่างๆ เรารู้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ให้อำนาจโดยปราศจากการตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่มันเยอะ ผลประโยชน์ที่มันใหญ่ขนาดนี้ มันมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรั่วไหลของอำนาจได้ การสร้างกลไกธรรมาภิบาลเข้ามาจัดการเนี่ย ผมคิดว่าอันนี้มันสำคัญ"
5. ปรับรูปแบบให้เน้นการแข่งขันมากกว่าการพนันแบบดั้งเดิม
นักวิชาการเสนอให้พัฒนา Entertainment Complex ในรูปแบบที่เน้นการแข่งขันมากกว่าการพนันแบบดั้งเดิม "การใช้คำว่า Entertainment Complex มันสะท้อนให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องไปยึดกับกาสิโนแบบดั้งเดิม ไม่ต้องยึดแบบบ่อนการพนันของไทย หรือกาสิโนแบบแบล็คแจ็ค บาคาร่า รูเล็ตแบบต่างประเทศ แต่เราไปในทางกีฬาได้ไหม ในลักษณะ e-sports ที่แข่งขันกัน ลักษณะนี้ผมคิดว่ามันยังไปได้ และมันน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าจะไปคิดในเรื่องของการพนัน"
6. วางกลไกในการแก้ไขปัญหาและกระจายผลประโยชน์
"ภาครัฐจะต้องเข้าใจว่ากิจกรรมตัวนี้มันไม่ใช่กิจกรรมตรงไปตรงมาแบบเราปลูกกล้วยปลูกข้าว ความเสี่ยงต่างๆ มักจะเกิดจากผู้เล่นและชุมชน ขณะที่ผลประโยชน์ต่างๆ มันเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ แปลว่ามันต้องมีกลไก leverage เอาพวกกำไรต่างๆ มาแก้ไขปัญหา"
ดร.นณริฏ สรุปว่า Entertainment Complex เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการวางนโยบายและการบริหารจัดการของภาครัฐ โดยเฉพาะการกำหนดทิศทางให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าการส่งเสริมให้คนไทยเข้าไปเล่นการพนัน
"ในมุมมองของผม มันมีทั้งมุมดี มุมเสีย แต่ว่าขึ้นกับว่าภาครัฐจะต้องการเดินทางไปทางไหนและกำกับดูแลอย่างไร" ดร.นณริฏกล่าวทิ้งท้าย