ถอดบทเรียนกาสิโน 3 ชาติ "ความสำเร็จ-ล้มเหลว" ที่ไทยต้องศึกษา

21 ก.พ. 2568 | 03:26 น.

สัมภาษณ์พิเศษ "รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์" ยกกรณีศึกษากาสิโนใน 3 ประเทศอาเซียน "ฟิลิปปินส์-กัมพูชา" ล้มเหลว "สิงคโปร์" คุมเข้มประสบความสำเร็จ พร้อมเสนอ 5 มาตรการสำคัญของไทย

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ฐานเศรษฐกิจ" วิเคราะห์บทเรียนการดำเนินกิจการกาสิโนในต่างประเทศ พร้อมชี้จุดอ่อนของ "ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ของไทย

 

ถอดบทเรียนกาสิโน 3 ชาติ \"ความสำเร็จ-ล้มเหลว\" ที่ไทยต้องศึกษา

 

กรณีฟิลิปปินส์: จากคาสิโนสู่วังวนปัญหา

 

"ฟิลิปปินส์เปิดบ่อนกาสิโนมาตั้งแต่ปี 2519 หรือกว่า 50 ปีแล้ว แต่ประเทศก็ยังอยู่อย่างนี้ ไม่ได้สร้างคุณูปการให้กับประเทศมากมาย" รศ.ดร.นวลน้อยกล่าว โดยชี้ให้เห็นว่าแม้รายได้ของรัฐจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนบ่อน แต่ปัญหาที่ตามมาก็มีมากมาย

ในช่วงแรก รัฐบาลให้หน่วยงานรัฐดำเนินการ ก่อนจะเปิดให้เอกชนเข้ามา ทำให้จำนวนบ่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อรายได้ไม่เพียงพอ ฟิลิปปินส์หันไปเปิดพนันออนไลน์แบบออฟชอร์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยอ้างว่าให้เฉพาะชาวต่างชาติเล่น

 

ถอดบทเรียนกาสิโน 3 ชาติ \"ความสำเร็จ-ล้มเหลว\" ที่ไทยต้องศึกษา

 

"คนที่เล่นส่วนใหญ่เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งที่จีนมีกฎหมายห้ามพลเมืองเล่นพนันออนไลน์และห้ามจัดทัวร์พาคนไปเล่นพนัน" อาจารย์นวลน้อยอธิบาย เมื่อรัฐบาลจีนกดดัน ฟิลิปปินส์จึงต้องลดจำนวนใบอนุญาตลง

สถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อพบว่ามีการใช้กาสิโนเป็นแหล่งฟอกเงิน จนฟิลิปปินส์ติดบัญชีเทาของคณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการฟอกเงินระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ

 

นอกจากนี้ยังพบปัญหาคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง การค้ามนุษย์ และการกักขังหน่วงเหนี่ยวชาวต่างชาติเป็นพันคน

 

ถอดบทเรียนกาสิโน 3 ชาติ \"ความสำเร็จ-ล้มเหลว\" ที่ไทยต้องศึกษา

 

"เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจาก 8-9 ล้านคนเหลือไม่ถึง 5 ล้านคน รัฐบาลก็หันมากระตุ้นให้คนในประเทศเล่นพนันมากขึ้น มีการเพิ่มตู้สล็อตหลายพันตู้ และเปิดพนันออนไลน์สำหรับคนในประเทศแทน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและอาจสร้างปัญหาสังคมที่ใหญ่กว่าเดิม"

 

กรณีกัมพูชา: บทเรียนจากสีหนุวิล

 

เมืองสีหนุวิลเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการพัฒนาที่ผิดทิศทาง จากเมืองชายทะเลท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง กลายเป็นศูนย์กลางกาสิโนและพนันออนไลน์ที่เต็มไปด้วยปัญหา

 

ถอดบทเรียนกาสิโน 3 ชาติ \"ความสำเร็จ-ล้มเหลว\" ที่ไทยต้องศึกษา

 

"มีชาวจีนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายมาอยู่หลายแสนคน เกิดปัญหาอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ มีทั้งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง การค้ามนุษย์ การกักขังหน่วงเหนี่ยว จนรัฐบาลจีนต้องขอความร่วมมือให้ปราบปราม"

 

หลังการปราบปราม เมืองสีหนุวิลกลับกลายเป็นเมืองร้าง "มีแต่ตึกรกร้างว่างเปล่า การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เคยมีตึกถล่มมาแล้ว เป็นปัญหาที่ทิ้งค้างไว้ว่าจะจัดการอย่างไร เพราะการสร้างก็ไม่ได้มาตรฐาน จะปรับปรุงหรือรื้อถอนก็ยาก"

 

สิงคโปร์: ต้นแบบการควบคุมที่เข้มงวด

 

"สิงคโปร์น่าจะเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาเซียนเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโน" รศ.ดร.นวลน้อยกล่าว โดยระบุว่าความสำเร็จมาจากการมีธรรมาภิบาลที่ดี การบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด และความโปร่งใสในการดำเนินการ

 

ถอดบทเรียนกาสิโน 3 ชาติ \"ความสำเร็จ-ล้มเหลว\" ที่ไทยต้องศึกษา

 

สิงคโปร์มีการควบคุมที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น โดยกำหนดให้มีกาสิโนเพียง 2 แห่ง และจำกัดพื้นที่กาสิโนไม่เกิน 3% ของพื้นที่รวม มีการสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาถึงเหตุผลที่ต้องมีกาสิโน เนื่องจากทิศทางการท่องเที่ยวเริ่มแย่ลงและไม่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวมากพอ

 

มาตรการสำคัญอีกประการคือการเก็บค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโนสำหรับคนในประเทศ เริ่มต้นที่ 100 เหรียญสิงคโปร์ต่อครั้ง และเพิ่มเป็น 150 เหรียญในปัจจุบัน

 

นอกจากนี้ยังห้ามการปล่อยวงเงินเครดิตให้กับคนในประเทศ อนุญาตเฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น

 

ข้อเสนอแนะสำหรับประเทศไทย

 

จากบทเรียนในต่างประเทศ รศ.ดร.นวลน้อยมีข้อเสนอแนะหลายประการ:

  • กฎหมายต้องชัดเจน ไม่หลวม "ต้องเขียนให้ชัดเจนว่าจะมีกี่แห่ง ขนาดเท่าไหร่ ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นอำนาจของซุปเปอร์บอร์ดที่จะไปกำหนดภายหลัง"
  • รับฟังความคิดเห็นประชาชน "ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพราะเวลาเกิดปัญหา คนในพื้นที่รับผลกระทบหมด"
  • มีมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่เข้มงวด "โดยเฉพาะในห้อง VIP ที่มักเป็นแหล่งฟอกเงิน ต้องมีระบบตรวจสอบที่รัดกุม"
  • กำหนดแผนเยียวยาชัดเจน "ต้องมีแผนชัดเจนเรื่องการบำบัดเยียวยาผู้ติดพนัน มีการจัดสรรงบประมาณเฉพาะสำหรับเรื่องนี้ เหมือนที่เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และมาเก๊าทำ"
  • ควบคุมการขยายตัว "อย่ารีบร้อนขยายตัว ควรทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจกำหนดให้มีการทบทวนทุก 5 ปี"

 

"ประเทศไทยมีจุดอ่อนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่แข็งแรง หน่วยงานกำกับดูแลไม่เข้มแข็ง และมีปัญหาความโปร่งใส เราอยู่อันดับร้อยกว่าในเรื่องความโปร่งใส ขณะที่สิงคโปร์อยู่ในอันดับ 5 ของโลก" รศ.ดร.นวลน้อยกล่าวทิ้งท้าย

 

พร้อมเน้นย้ำว่าความสำเร็จหรือล้มเหลวของการมีคาสิโนขึ้นอยู่กับการกำกับดูแลเป็นสำคัญ