กระทรวงอุตฯจ่อถก “DSI” ทลายขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์-ฟอกเงิน

14 ก.พ. 2568 | 11:33 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2568 | 11:33 น.

กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเดินหน้าหารือ DSI ผนึกกำลังทลายขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ วัตถุอันตรายเข้าไทย และต้องสงสัยจะเชื่อมโยงการฟอกเงิน เผยประสานผู้ว่าฯปราจีนบุรีระดมแผนสกัดโรงงานเถื่อน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯจะเร่งหารือร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและวางแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันในการเอาผิดกับเครือข่ายผู้ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ กากอุตสาหกรรมและวัตถุอันตรายเข้ามาภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง และอาจมีประเด็นเรื่องการฟอกเงิน

ทั้งนี้ ล่าสุดได้ดำเนินการส่งทีมตรวจการกระทรวงฯ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี นายอำเภอศรีมหาโพธิ์ เจ้าหน้าที่ราชการส่วนภูมิภาค และข้าราชการส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการโรงงานที่ถูกสั่งปิดไปแต่ยังมีการลักลอบดำเนินการอยู่

โดยบริษัท ทีแอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด และบริษัทเครือข่าย ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีมหาโพธิ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ได้ถูกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 เพราะมีพฤติกรรมที่จงใจฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายอย่างต่อเนื่อง 

กระทรวงอุตฯจ่อถก “DSI” ทลายขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์-ฟอกเงิน

ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบการกระทำความผิดและแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วอย่างน้อย 10 ข้อหา เช่น ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองวัตถุอันตราย 

อย่างไรก็ดี จะดำเนินการยกระดับความร่วมมือการบังคับใช้กฎหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประสานงานไปยังนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายและประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทำการตัดการจ่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานนี้ เพราะยังมีการลักลอบใช้เครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ออกหนังสือถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาศรีมหาโพธิ เพื่อทำการตัดจ่ายไฟฟ้า และมีหนังสือถึงนายก อบต.ศรีมหาโพธิ ในการเอาผิดเรื่องผังเมือง เนื่องจากพื้นที่ตั้งโรงงานเป็นเขตพื้นที่สีเขียวไม่สามารถประกอบกิจการหลอมโลหะได้ 

โรงงานดังกล่าวถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง และยังมีการลักลอบดำเนินการตั้งประกอบกิจการโรงงานอยู่อย่างต่อเนื่อง ลักลอบสร้างเตาหลอมขยายเครื่องจักรใหม่ ลักลอบนำของกลางที่ถูกยึดอายัดไว้ออกนอกพื้นที่ จึงต้องดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด