บ้านเพื่อคนไทยล่าสุดตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 พบว่า มีผู้เข้ามาชมเว็บไซต์ รวมแล้ว 75 ล้านครั้ง โดยมีผู้ลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 2.7 แสนคน
และสามารถที่ผ่านการกลั่นกรองคุณสมบัติเบื้องต้น (Pre-Approve) เป็นผู้สามารถกู้เงิน ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตามเงื่อนไขแล้วจำนวน 1.4 แสนคน
สำหรับพื้นที่ที่มีคนลงทะเบียนมากที่สุด คือ กม.11 (วิภาวดี) มากกว่า 1 แสนคน
อย่างไรก็ดี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เร็ว ๆ นี้จะเปิดพื้นที่ในเฟส 2 อีกประมาณ 10,000 ยูนิต และเฟส 3 เฟส 4 ตามไป มีเป้าหมายภายในปี 2568 จะมีทั้งหมด 100,000 ยูนิต และจะเริ่มส่งมอบให้ผู้ได้รับสิทธิ์เข้าอยู่อาศัยภายในปี 2569
โดยพื้นที่ ที่จะนำมาพัฒนา จะเน้นที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ที่มีประชากรหนาแน่น เช่น นครราชสีมา กาญจนบุรี หาดใหญ่ สงขลา สุราษฎร์ธานี เป็นต้น เนื่องจากวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย และใช้ระบบรางในการเดินทาง ซึ่งอนาคตระบบทางคู่ รถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จการเดินทางจะสะดวกปลอดภัยมากขึ้น
ตัวอย่าง ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จะมีจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟกาญจนบุรี และป้ายหยุดรถสะพานแควใหญ่ โดยมีแนวทางการพัฒนาในรูปแบบคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์
รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ยูนิต ซึ่งคาดว่าการดำเนินการในเฟสที่ 1 จำนวน 1,500 ยูนิต จะแล้วเสร็จในปี 2569 ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่าอีกว่า วิธีการทำตลาดของโครงการบ้านเพื่อคนไทย คือหาลูกค้าก่อน เพื่อให้ทราบจำนวนที่ต้องการ ขนาดและรูปแบบของห้องรูปแบบ แล้วออกแบบให้ตอบรับกับความต้องการ มากที่สุด
ดังนั้นตอนนี้จึงอาจจะยังบอกจำนวนยูนิตที่แน่นอนไม่ได้ในแต่ละพื้นที่ เพราะต้องถึงกับขนาดห้องด้วยว่า มีคนต้องการขนาดไหนมาก ขนาดไหนน้อย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการออกแบบ และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อยื่น EIA ต่อไป