นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ของไทยเดือนมกราคม 2568 เท่ากับ 100.57 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2567 ซึ่งเท่ากับ 99.26 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 1.32%
โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นผลฐานราคาต่ำในปีที่ผ่านมา ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจทกราคาผลไม่สด เครื่องประกอบอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกกอฮอล์ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนธันวาคม 2567 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยสูงขึ้น 1.23% ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ
โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 24 จาก 135 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียนจาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สปป.ลาว
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 1.78% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลไม้สด กลุ่มอาหารสำเร็จรูป กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล และกลุ่มผักสด อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ไก่ย่าง พริกสด มะนาว หัวหอมแดง กระเทียม ผักกาดขาว และกะหล่ำปลี เป็นต้น
หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 1% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้ ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน ปรับสูงขึ้นเช่นกัน ขณะที่ยังมีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ของใช้ส่วนบุคคล สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด และเสื้อผ้า เป็นต้น
ทั้งนี้รายการสินค้าที่การเปลี่ยนที่มีการปรับตัวสูง 288 รายการ อาทิ ปลานิล ข้าวสารเจ้า กาแฟผงสำเร็จรูป ค่าโดยสารเครื่องบิน ค่าเช่าบ้าน น้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่สินค้ามีราคาคงที่มี 52 รายการ อาทิ ค่าบริการขนขยะ ค่าน้ำปะปา ค่าโดยสารเรือ ค่าโดยสารรถแท็กซี่ หนังสือพิมพ์ ด้านสินค้าที่ราคาลง 124 อาทิ ไก่ย่าง พริกสด กะหล่ำปลี มะนาวผักกาดขาว หัวหอมแดง สบู่ถูตัวแชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ 2568 คาดว่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ประกอบด้วย
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วงไตรมาสแรก (มกราคม - มีนาคม) คาดการณ์ว่าจะสูงกว่า 1% ขณะที่ภาพรวม ปี 2568 ยังคงคาดการณ์ ว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.3 - 1.3 (ค่ากลางร้อยละ 0.8) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันโดยมีปัจจัยที่สนับสนุนให้ทั่วไปปรับสูงขึ้น