นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศทั้ง 58 แห่ง ให้ความร่วมมือรับซื้ออ้อยไฟไหม้ในแต่ละวันไม่เกิน 25% ทั้งหมด 100% แล้ว ซึ่งเป็นมาตรการความร่วมมือในการขอความร่วมมือลดการซื้ออ้อยไฟไหม้ เฉลี่ยอยู่ที่ 10-11%
ทั้งนี้ ล่าสุดจะได้เห็นการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ในแต่ละวันเป็นตัวเลขตัวเดียวอย่างแน่นอน โดยถือเป็นสถิติครั้งประวัติศาสตร์ที่ทุกโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศให้ความร่วมมือทั้งหมด เทียบจากปลายปีที่ผ่านมายังมีโรงงานรับซื้ออ้อยไฟไหม้บางโรงงานสูงถึง 60-70%
“การร่วมกันดำเนินการดังกล่ว เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 (PM2.5) ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในหลายๆพื้นที่ในขณะนี้”
กระทรวงอุตสาหกรรมเข้มงวดในเรื่องการเผาอ้อยมาโดยตลอด เพราะรู้ว่า การเผาอ้อยเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา PM2.5 แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องเข้มงวด ซึ่งทางกระทรวงอุตฯ ทั้งเข้มงวดในเรื่องการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และส่งเสริมการเก็บอ้อยสด เช่น ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลหยุดรับอ้อยในช่วงเทศกาลปีใหม่
,ให้โรงงานมีสิทธิปฏิเสธการรับอ้อยที่ถูกเผา และเห็นชอบอัตราการหักเงินชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยที่ถูกเผาในแต่ละวันเป็นรายโรงงาน หากปริมาณอ้อยที่ถูกลักลอบเผา 0.01 – 25 % หักเงินชาวไร่อ้อย ในอัตราตันละ 30 บาท และปริมาณอ้อยที่ถูกลักลอบเผาตั้งแต่ 25.01 % ขึ้นไป หักเงินชาวไร่อ้อยเพิ่มอีกตันละ 100 รวมเป็นอัตราตันละ 130 บาท
,มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี กำหนดจ่ายเงินสนับสนุนรับซื้อใบและยอดอ้อยเพื่อเป็นวัตถุดิบด้านพลังงานป้อนโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวลหรือโรงงานที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวล ควบคู่กับการจ่ายเงินช่วยเหลือการตัดอ้อยสดคุณภาพดีให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีส่งเข้าหีบ
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ประเด็นการลดซื้ออ้อยไฟไหม้ กระทรวงอุตสาหกรรม สั่งกำชับตั้งแต่ปีที่แล้ว ให้เข้มงวดเรื่องการรับซื้ออ้อยไฟไหม้เข้าฤดูหีบ
อย่างไรก็ดี ล่าสุดทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ,ปลัดกระทรวงฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้โทรศัพท์สายตรงถึงเจ้าของโรงงานน้ำตาลตัวจริงทั้ง 58 โรงงานทั่วประเทศ
ไม่ได้ผ่านที่ปรึกษา หรือคนที่ไม่ใช่ตัวจริง เพื่อขอความร่วมมือในการลดการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ เพื่อให้ชาวไร่เกษตรกรรับรู้ว่า ทางรัฐบาลเอาจริงในเรื่องนี้ และในระยะต่อไปรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรให้ตัดอ้อยสดเข้าหีบ ให้มีอ้อยสดเข้ามากที่สุด เช่น มาตรการการเพิ่มเงินเก็บอ้อยสดคุณภาพดี ลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี อากาศบริสุทธิ์อย่างที่ควรจะเป็น
สำหรับสถิติการรับอ้อยเผารายวันของโรงงานน้ำตาล 58 แห่งทั่วประเทศวันที่ 24 ม.ค. 68 รวมวันเปิดหีบ 50 วัน พบว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบสะสม ทั้งสิ้น 43.26 ล้านตัน แบ่งเป็นปริมาณอ้อยสดสะสม 35.78 ล้านตัน สัดส่วน 82.71% และอ้อยไฟไหม้สะสม 7.47 ล้านตัน สัดส่วน 17.29% ถ้าเทียบเฉลี่ยรายวัน มีอ้อยไฟไหม้เฉลี่ยเหลือ 10.95% น้อยกว่า 10% มีจำนวน 28 โรงงาน มากกว่า 10% แต่ไม่ถึง 25% มี 30 โรงงาน ส่วนเกิน 25% ไม่มีแล้ว เฉลี่ยสะสม 17.29% ซึ่งตัวเลขอ้อยเฉลี่ยสะสมจะลดลงเรื่อยๆ จากบางช่วงเฉลี่ยสะสมสูงถึง 40-50%
แม้ปัญหาการเผาอ้อย จะเป็นส่วนหนึ่งในการเกิดปัญหาPM 2.5 เท่านั้น แต่เชื่อว่า ถ้าทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกัน จะทำให้ปัญหาฝุ่นPM2.5 ลดลงได้