“พลังงาน” ชี้รัฐบาลเก็บภาษีคาร์บอนยังไม่กระทบราคาน้ำมันในประเทศ

คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมีมติอนุมัติหลักการ "ร่างกฎกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกำหนดกลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน

โดยกำหนดอัตราราคาคาร์บอนที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2065

เรื่องดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลเรื่องของผบลกระทบต่อราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ ถึงขนาดที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สอบถามกลางวงครม. โดยกังวลว่า การกำหนดราคาคาร์บอนของสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า อาจส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ 

จนทำให้นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องอธิบายกลับไปว่า เรื่องนี้จะไม่มีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ที่ประชุม ครม. จึงมีมติอนุมัติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

ต่อเรื่องดังกล่าวแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวให้ความเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ” โดยระบุว่าในระยะแรกคงยังไม่มีผลต่อราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ เพราะเป็นการนำไปหักกับภาษีสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคจ่ายอยู่แล้วในโครงสร้างราคาน้ำมัน

โดยตามมติของ ครม. ก็คือ หากมีการจัดเก็บภาษีคาร์บอนในอัตราเท่าใด จะเป็นการหักจากส่วนดังกล่าวนี้ก่อน เช่น ปัจจุบันเก็บภาษีสรรพสามิตรอยู่ที่ ประมาณ 5 บาท ก็คือส่วนที่จะถูกหักก่อน หรือผู้บริโภคจ่ายเท่าเดิม จึงทำให้ยังไม่มีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องติดตามก็คือ รัฐบาลจะดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวนี้ไปอีกนานแค่ไหน เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการคิดเมื่อใด ประชาชนก็จะต้องจ่ายเพิ่ม

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวก็ต้องบอกว่เห็นด้วยกับแนวคิดการจัดเก็บภาษีคาร์บอน เพราะภาษีสรรพสามิตโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน ก็ถูกคิดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่แล้ว เช่น E85 ก็มีการจัดเกบภาษีอยู่แล้ว ดังนั้น ประเด็นที่ต้องถามต่อก็คือ จะเป็นการเก็บซ้ำซ้อนหรือไม่ ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นที่ประชาชนเป็นห่วง

“การจัดเก็บภาษีคาร์บอนหากในระยะต่อไปมีการจัดเก็บเพิ่มเติมมากกว่าที่กำลังจะจัดเก็บ จะมีผลทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขึ้น พร้อมกับต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) บวกเข้าไปอีก เรียกว่าประชาชนจะโดน 2 เด้ง”

อย่างไรก็ดี เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะดำเนินการจัดเก็บในอัตรา 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่าไปอีกนาน เพราะหากเก็บมากกว่านี้จะกลายเป็นการเพิ่มต้นทุน และเป็นภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง