เฮ! ครม.อนุมัติงบเยียวยาศิลปินอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด

16 ส.ค. 2565 | 15:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2565 | 00:09 น.

ครม.ไฟเขียวอนุมัติโครงการเยียวยาศิลปินอายุเกิน 65 ปีได้รับผลกระทบจากโควิดที่เป็นแรงงานนอกระบบและไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกันตน ม.33 ม. 39 และ ม.40 รวม 2,459 คน 

16 สิงหาคม 2565 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเยียวยาศิลปินที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนรวม 2,459 คน กรอบวงเงินรวม  12.29  ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด -19 

 

พร้อมมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำแผนความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายในโครงการตามแผนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง   

สำหรับกลุ่มศิลปินที่ได้รับการเยียวยาในครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกับ กระทรวงแรงงาน เปิดให้มีการลงทะเบียนศิลปินผู้มีอายุเกิน 65 ปีที่เป็นแรงงานนอกระบบและไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ตามพ.ร.บ.ประกันสังคมในช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา จากเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิงและสมาคมศิลปินพื้นบ้าน ทั้งหมด 29 สมาคม ทั้งนี้ มีผู้ผ่านคุณสมบัติละได้รับการเยียวยารวม 2,459 คน แยกเป็น

 

1.ศิลปินที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 23 จังหวัด จำนวน 1,140 คน วงเงิน 5.7 ล้านบาท  

 

2.ศิลปินที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงที่อยู่นอกพื้นที่ควบคุมสูงสุด 1,319 คน วงเงิน 6.59 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ 3 เดือน ระหว่าง ส.ค.- ต.ค. 2565 

 

สำหรับการเยียวยาศิลปิน อายุเกิน 65 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถือเป็นแรงงานนอกระบบ ไม่เข้าข่ายผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคม ที่ตกค้าง จำนวน 2,459 คน จะได้คนละ 5,000 บาท

นอกจากนี้ ครม.ยังรับทราบรายงานผลการคืนเงินกู้เหลือจ่ายของหน่วยงานรับผิดชอบโครงการจำนวน 16 โครงการ รวมทั้งสิ้น 17,427  ล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 คงเหลือ ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2565 เพิ่มขึ้นจาก 26,764 ล้านบาท เป็น 44,192.32 ล้านบาทแต่เมื่อหักส่วนของโครงการเยียวยาศิลปินฯ ในครั้งนี้แล้วจะทำให้กรอบวงเงินกู้ฯ คงเหลือ 44,180.03 ล้านบาท โดยแยกเป็นเงินคงเหลือ จากแผนงานฯ กลุ่มที่ 2 ช่วยเหลือ/เยียวยา วงเงิน 8,593.23 ล้านบาท และ จากแผนงานฯ กลุ่มที่ 3 ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 35,586.80 ล้านบาท

 

สำหรับ 16 โครงการที่คืนเงินกู้เหลือจ่าย มีโครงการที่สำคัญเช่น โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทยเพิ่มเติม จำนวน 20,001,150 โดส (Pfizer) วงเงินอนุมัติ 9,372 ล้านบาท วงเงินใช้จ่ายจริง 8,616 ล้านบาท เงินคืนเหลือจ่าย 756 ล้านบาท, โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี ของกรมการจัดหางาน กระทวงแรงงาน วงเงินอนุมัติ 37,521 ล้านบาท วงเงินใช้จ่ายจริง 27,025 ล้านบาท เงินคืนเหลือจ่าย 10,496 ล้านบาท

 

โครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 วงเงินอนุมัติ 34,800 ล้านบาท วงเงินใช้จ่ายจริง 30,344 ล้านบาท เงินคืนเหลือจ่าย 4,455 ล้านบาท และโครงการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถรับจ้าง(รถแท็กซี่)และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงินอนุมัติ 166 ล้านบาท วงเงินใช้จ่ายจริง 86 ล้านบาท มีเงินคืนเหลือจ่าย 80 ล้านบาท เป็นต้น