ซีพีเอฟทำนิวไฮ ยอดขาย Q2 กว่า 1.5 แสนล้าน

15 ส.ค. 2565 | 18:45 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2565 | 01:54 น.

ซีพีเอฟ โชว์ผลงานไตรมาส 2 ทำนิวไฮ ยอดขายกว่า 1.5 แสนล้านบาท โตกว่า 20% กำไรสุทธิ 4,208 ล้านบาท ยอดขายจากกิจการในต่างประเทศยังมากกว่าในประเทศ หลังโควิดคลี่คลาย ความต้องการผู้บริโภคเพิ่มขึ้น มั่นใจทั้งปีดีต่อเนื่อง

 

รายงานข่าวจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารที่มีการลงทุนและร่วมลงทุนใน 17 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการส่งออกสินค้าไปยัง 40 ประเทศ รายงานยอดขายประจำไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 155,996 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยกำไรสุทธิจำนวน 4,208 ล้านบาท

 

 

โดยกิจการประเทศไทยมีรายได้จากการขายจำนวน 50,980 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33 ของรายได้จากการขายรวม) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17  และในส่วนของกิจการต่างประเทศ มีรายได้จากการขายจำนวน 105,016 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67 ของรายได้จากการขายรวม) เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และความต้องการบริโภคดีขึ้นจากการผ่อนคลายของมาตรการการป้องกันโควิดในประเทศต่าง ๆ

 

ทั้งนี้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 ปี 2565 อยู่ที่ 22,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนลดลง 1,546 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมในประเทศจีนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสุกรที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา  ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น จึงเป็นผลให้กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2565 อยู่ที่ 4,208 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

 

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ผลจากมาตรการด้านโควิดที่ผ่อนคลายลงในหลายประเทศ และระดับราคาสุกรในประเทศจีนได้ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา รวมถึงผลจากการให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้มาโดยตลอด บริษัทฯ จึงคาดว่าผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และมองว่าผลจากการให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานและการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปีต่อ ๆ ไปสามารถเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง

 

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปีนี้ ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 (ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 30 สิงหาคม 2565) และจะทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 กันยายน 2565