น้ำมัน WTI ร่วง 3% ปิดที่ 115.31 ดอลล์ เฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงกระทบดีมานด์

16 มิ.ย. 2565 | 06:44 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2565 | 13:53 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (15 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวานนี้


        
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 3.62 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 115.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
          
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 118.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
         

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 736,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย.

 

คาร์สเตน ฟริทช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัทคอมเมิร์ซ รีเสิร์ชกล่าวว่า ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.75% อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน


         

ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537 พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 1.75% ในปีนี้
         

นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ในเดือนมี.ค. และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.7% ในปี 2566