ครม.ปลดล็อกต่างชาติเดินทางเข้าไทย ไม่ต้องกรอกใบ ตม.6

14 มิ.ย. 2565 | 15:21 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2565 | 01:27 น.
1.6 k

ครม.ไฟเขียวยกเว้นการใช้แบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติ นำร่องเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานเป็นการชั่วคราวก่อน หวังลดปัญหาความแออัดตรวจเอกสารช่วงเปิดประเทศ ส่วนทางบก น้ำ ยังต้องกรอกเหมือนเดิม

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ได้เห็นชอบในหลักการดำเนินการยกเว้นรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้าใน หรือ ออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ ตม.6) เฉพาะกรณีการเดินทางผ่านท่าอากาศยานเป็นการชั่วคราว 

 

จากนั้นจะประเมินผลระยะหนึ่งเพื่อพิจารณาดำเนินการในแนวทางที่เหมาะสมต่อไป ส่วนกรณีการกรอกและยื่นใบตม.6 ของคนไทยได้ยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2560 ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 42/2560 

 

อย่างไรก็ตาม การกรอกและยื่นแบบ ตม.6 สำหรับการเดินทางทางบก (รถยนต์ รถไฟ) และทางน้ำ(เรือ) คงให้ดำเนินการต่อไป เพราะมีจำนวนไม่มากอย่างมีนัยสำคัญเหมือนช่องทางท่ากาอาศยาน และยังคงเป็นประโยชน์ในด้านการป้องกันอาชญากรรมและการติดตามตัว

สำหรับการยกเว้นการกรอกและยื่นแบบ ตม.6 เป็นการชั่วคราวสำหรับชาวต่างชาติ เฉพาะผู้เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่ากาศยานนี้ เนื่องจากเป็นช่องทางที่เวลานี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องมีการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19  

 

โดยจะมีการตรวจคัดกรองเมื่อผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศลงจากอากาศยานใน 2 ส่วน คือตรวจแบบ ตม.6 โดยด่านตรวจคนเข้าเมือง และตรวจข้อมูลการรับวัคซีน คัดกรองโรค โดยด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้มีจำนวนผู้เดินทางสะสมมากบริเวณหน้าด่านในช่วงเวลาเที่ยวบินหนาแน่น           

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การยกเว้นการกรอกและยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติ จะทำให้การตรวจลงตราหน้าด่านเป็นไปอย่างรวดเร็ว และลดปัญหาความแออัดของผู้โดยสาร และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของท่าอากาศยานซึ่งเป็นประตูด่านแรกที่สะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศ 

ทั้งนี้เพื่อรองรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสามารถประหยัดงบประมาณสำหรับการจัดพิมพ์แบบ ตม.6 ซึ่งปัจจุบันมีการพิมพ์ในราคาแผ่นละ 0.70 บาท  ซึ่งหากมีการจัดพิมพ์ตามปกติที่ 65 ล้านใบ จะคิดเป็นงบประมาณจัดพิมพ์ที่ 45.5 ล้านบาท

 

สำหรับการจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลกายภาพของผู้เดินทางเข้าประเทศนั้น สามารถจัดเก็บผ่านระบบไบโอเมตริกส์  และในส่วนของข้อมูลด้านการท่องเที่ยวสามารถเก็ฐจากข้อมูลของผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสายการบินได

 

อย่างไรก็ตามภายหลังจาก ครม. ให้การอนุมัติในหลักการครั้งนี้แล้ว กระทรวงมหาดไทยจะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการออกประกาศให้เป็นไปตามกฎหมายและเกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็วต่อไป