สรุปมติศบค.เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พ.ค.นี้ มีอะไรบ้าง

22 เม.ย. 2565 | 19:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2565 | 02:04 น.

อัพเดทมติศบค.ล่าสุด เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พ.ค. ตรวจสอบมาตรการเข้าประเทศ-คุมโควิดพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง-เฝ้าระวังสูง มีอะไรบ้าง

จากผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มีมติยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go ที่ต้องตรวจ RT-PCR โดยปรับให้ใช้เพียงการตรวจ ATK เท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเปิดรองรับการท่องเที่ยวหลังจากหลายประเทศได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ไปมากพอสมควรแล้ว เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

มาตรการที่ได้พิจารณาในวันนี้ มีการผ่อนคลายการเดินทาง ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ ส่วนการปรับระดับพื้นที่ ได้กำหนดให้เหลือพื้นที่สีส้ม เขียว เหลือ ฟ้า โดยจะไม่มีพื้นที่สีแดงแล้ว โดยในวันที่ 1 พ.ค. 65 นี้จะเรียกได้ว่าเป็นการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ดังนี้

มาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร 

1.ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์

  • ลงทะเบียน Thailand Pass
  • แสดงหลักฐานฉีดวัคซีน/ประกันภัย 10,000 USD
  • ตรวจ Self ATK ระหว่างพำนัก
  • เสี่ยงสูงกักตัว 5 วัน + สังเกตอาการ 5 วัน

2. ไม่ได้ฉีดวัคซีน/ฉีดไม่ครบ

  • ลงทะเบียน Thailand Pass
  • แสดงหลักฐานจองห้องพัก (AQ)/ประกันภัย 10,000 USD
  • แสดงหลักฐานตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชม.
  • ตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4-5
  • ตรวจ Self ATK ระหว่างพำนัก
  • เสี่ยงสูงกักตัว 5 วัน + สังเกตอาการ 5 วัน

มาตรการควบคุมโควิด พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และพื้นที่เฝ้าระวังสูง

1.คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิดแบบบูรณาการ ตามระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร 1 พ.ย. 64 ทั้งนี้ทุกพื้นที่ปิดสถานบริการสถานบันเทิงและสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกัน

2.ปรับมาตรการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน

  • จำกัด เวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเดิมไม่เกิน 23.00 น. เป็นไม่เกิน 24.00 น.
  • จำกัดประเภทร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ ต้องเป็นร้านอาหารต้องผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus และมาตรการ COVID Free Setting

3.สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ตามมาตรการที่กำหนด โดยขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ได้

4.Work from home ตามความเหมาะสมและการพิจารณาของหน่วยงาน

พื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักรเริ่ม 1 พ.ค. 65 ปรับเหลือ 2 กลุ่ม ดังนี้

1.พื้นที่เฝ้าระวังสูง 65 จังหวัด

กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม

มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี

2.พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 12 จังหวัด

กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา (จังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่) ใช้มาตรการเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง