SHARGEผนึกเรือด่วนเจ้าพระยาสร้างเรือไฟฟ้า 30 ลำใน 8 ปี

18 เม.ย. 2565 | 14:42 น.
อัปเดตล่าสุด :18 เม.ย. 2565 | 21:42 น.

SHARGEผนึกเรือด่วนเจ้าพระยาสร้างเรือไฟฟ้า 30 ลำใน 8 ปี พร้อมติดตั้งสถานนีชาร์จความเร็วสูงอย่างน้อย 40 หัวชาร์จภายใน 5 ปี

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการร่วมมือกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เพื่อพัฒนาเรือไฟฟ้า  (Electric Boat) รวมถึงขยายขอบเขตการให้บริการของบริษัทสู่การสร้างสถานีชาร์จเรือไฟฟ้า 

 

ทั้งนี้ บริษัทจะเข้ามาช่วยพัฒนาสถานีชาร์จเรือยนต์ไฟฟ้าให้ตามท่าเรือต่างๆ ในเส้นทางที่เรือของเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่าน เพื่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าและปริมาณเรือไฟฟ้าของเรือด่วนเจ้าพระยาที่จะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต

 

โดยจะเน้นการพัฒนาสถานีชาร์จแบบกระแสตรง (DC) ที่มีหัวชาร์จความเร็วสูง 360 kW เพื่ออำนวยความสะดวกให้เรือทุกลำสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วในเวลากลางคืน 
 

และมีกำลังไฟที่เพียงพอต่อการแล่นสัญจรตลอดทั้งวัน คาดว่าจะนำร่องพัฒนาสถานีชาร์จเรือไฟฟ้าแห่งแรกที่ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญที่มีผู้คนขึ้นลงจำนวนมาก

 

ก่อนจะขยายสถานีชาร์จเรือไฟฟ้าตามท่าเรือสำคัญปลายทาง เพื่อให้มีหัวชาร์จความเร็วสูงอย่างน้อย 40 หัวชาร์จภายใน 5 ปี  

 

SHARGEผนึกเรือด่วนเจ้าพระยาสร้างเรือไฟฟ้า 30 ลำใน 8 ปี

 

นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายความร่วมมือกับกลุ่มผู้มียานพาหนะให้บริการจำนวนมาก (Fleet Operator) เพื่อช่วยกันผลักดันระบบนิเวศ EV ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและยั่งยืน 

 

นางสาวณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม กรรมการบริหาร บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา กล่าวว่า บริษัทต้องการเปลี่ยนผ่านการให้บริการจากเรือโดยสารแบบสันดาปภายในสู่เรือไฟฟ้า เพื่อยกระดับมาตรฐานเรือโดยสารให้มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบาย ลดการใช้และการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 

สอดคล้องกับเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติที่มุ่งให้เกิดยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle) และสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) ที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับหลากหลายพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงาน  

 

“การเปลี่ยนผ่านจากเรือสันดาปภายในสู่เรือไฟฟ้า มีหลากหลายปัจจัยที่บริษัทให้ความสำคัญ ทั้งความปลอดภัยของพลังงานที่ใช้ ขีดความสามารถของเรือ ชั่วโมงการปฏิบัติงานต่อการชาร์จกระแสไฟฟ้า 1 ครั้ง ไปจนถึงความพร้อมของสถานีชาร์จ โดย SHARGE ถือเป็นพันธมิตรสำคัญที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน และมีศักยภาพเข้ามาช่วยทำให้สถานีชาร์จเรือไฟฟ้ามีความพร้อมและเพียงพอต่อความต้องการในอนาคตของเรือโดยสารไฟฟ้ารอบแม่น้ำเจ้าพระยา” 
 

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะพัฒนาและออกแบบเรือไฟฟ้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 หากเรือไฟฟ้าต้นแบบมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค บริษัทจะเดินหน้าสร้างเรือไฟฟ้าปีละ 5-6 ลำ และสร้างให้ครบ 30 ลำภายในช่วง 5-6 ปี โดยแบ่งเป็นเรือไฟฟ้า 2 ขนาด ได้แก่ ขนาดความจุผู้โดยสาร 200 คน และ 250 คน คาดว่าจะเริ่มให้บริการเรือไฟฟ้าในเส้นทางแรก คือเส้นทางท่าเรือนนทบุรี-ท่าเรือสาทร ภายในช่วงกลางปีนี้