ไขข้อสงสัย "ลดเงินสมทบประกันสังคม" กระทบ "สิทธิบำนาญชราภาพ"ไหม ?

28 มี.ค. 2565 | 00:05 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มี.ค. 2565 | 18:08 น.
5.6 k

ลดเงินสมทบประกันสังคม หลายคนกังวลว่า จะมีผลต่อการรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพหรือไม่ ตรวจสอบรายละเอียดที่นี่

เกาะติด “ลดเงินสมทบประกันสังคม” หลังจากรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน หนึ่งในนั้นคือการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือ นายจ้าง และผู้ประกันตน 3 มาตรา

คือ มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด และสถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซีย และยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต และบริการของทั้งในและต่างประเทศ

หลายคนมีความกังวลว่าการลดอัตราเงินสมทบนั้น จะมีผลต่อการรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพหรือไม่

นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า การลดอัตราเงินสมทบนั้นจะไม่มีผลต่อสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพและสิทธิประโยชน์กรณีอื่นๆ เพราะการคำนวณสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญคิดจากฐานค่าจ้างเงินเดือน ไม่ได้คิดจากอัตราเงินสมทบที่ส่งเข้ากองทุน

การลดอัตราเงินสมทบอาจกระทบต่อการรับ "บำเหน็จผู้ประกันตน" เพราะการจ่ายกรณีบำเหน็จ จะคำนวณเงินสมทบกรณีชราภาพที่ผู้ประกันตนและนายจ้างสมทบเข้ากองทุน รวมผลประโยชน์ตอบแทน เมื่อลดอัตราเงินสมทบชราภาพลง ผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับบำเหน็จชราภาพจะได้รับเงินบำเหน็จที่ลดลง

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมไปพิจารณานำเงินสมทบส่วนของรัฐบาลที่อุดหนุนเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ เข้ากองทุน มาเพิ่มเงินบำเหน็จให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิในช่วงที่มีการลดเงินสมทบในช่วงดังกล่าว

 

ผู้ประกันตนตรวจสอบเงินสะสมกรณีชราภาพได้ผ่านทาง  www.sso.go.th หรือ SSO Mobile App : SSO CONNECT และทาง LINE : @SSOTHAI สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ

 

"สมทบประกันสังคม 2565"

ผู้ประกันตน ม.33

  • นายจ้าง และลูกจ้าง ที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ลดจ่ายเงินสมทบจากอัตราที่เท่ากัน 5% ต่อเดือน เหลือเป็น 1% ต่อเดือน เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป

 

ผู้ประกันตน ม.39

  • ลดอัตราเงินสมทบจาก 9% ต่อเดือน เหลือเป็น 1.9% เดือน

 

ผู้ประกันตน ม.40

ลดอัตราเงินสมทบ ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือนดังนี้

  • เดิมจ่าย 70 บาท/เดือน เหลือเป็น 42 บาท/เดือน ได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย
  • เดิมจ่าย 100 บาท/เดือน เหลือเป็น 60 บาท/เดือน ได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ
  • เดิมจ่าย 300 บาท/เดือน เหลือเป็น 180 บาท/เดือน ได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร

 

ทั้งนี้ ปรับลดอัตราเงินสบทบของผู้ประกันตน 3 มาตรา ระยะเวลา 3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค. 2565