22 มี.ค. คลังจ่อคลอด แพกเกจ ช่วยปชช. แก้วิกฤติน้ำมันแพง

20 มี.ค. 2565 | 14:40 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2565 | 21:50 น.
3.7 k

คลังเตรียมเสนอ ที่ประชุม ครม. คลอด แพกเกจ ช่วยเหลือประชาชนยุคน้ำมันแพง - เงินเฟ้อพุ่ง พร้อมจ่อลดภาษีนำเข้าปัจจัยการผลิต ปุ๋ย และ อาหารสัตว์ พยุงเกษตรกร หลังราคาพุ่งสูง จากสงครามรัสเซีย -ยูเครน

20 มีนาคม 2565 - มีรายงานว่า ล่าสุดกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอลดภาษีปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร ทั้งภาษีนำเข้าปุ๋ย ลดภาระปุ๋ยแพงช่วยเกษตรกร และภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ในช่วงสงครามยูเครน-รัสเซีย โดยหลายหน่วยงานเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาแพกเกจ ช่วยเหลือประชาชนยุคน้ำมันแพง เงินเฟ้อพุ่ง วันที่ 22 มีนาคมนี้
 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า  ขณะนี้เกษตรกรได้รับผลกกระทบจากปัจจัยการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ตามราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากผลกระทบช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้นกระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ จะเสนอแพกเกจร่วมกัน โดยจะมีการเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 มี.ค.นี้

 

“หลายหน่วยงานได้ระดมความเห็นเพื่อหาแนวการแก้ไขปัญหาราคาสินค้า โดยในส่วนกระทรวงการคลัง จะพิจารณาลดภาษีนำเข้าแม่ปุ๋ยเคมี ที่นำมาผสมเป็นสูตรใช้ในประเทศ เพื่อให้ต้นทุนในการซื้อปุ๋ยของเกษตรกรลดลง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ก็เป็นเรื่องของโควตาการนำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตร” นายอาคมกล่าว

ขณะที่ในส่วนของอาหารสัตว์ ที่มีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ และมีราคาสูง กระทรวงการคลังจะพิจารณาลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง 2% เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์มีต้นทุนที่ถูกลงและส่งต่อมายังเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ด้วย

 

สำหรับการลดภาระให้กับประชาชนช่วงน้ำมันแพง หลักๆจะเป็นการช่วยเหลือผ่านผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐ 13.5 ล้านคน โดยกระทรวงพลังงงาน เตรียมเสนอแผนช่วยเหลือรายย่อยสำหรับการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในภาคครัวเรือน ได้รับเงินอุดหนุนค่าซื้อก๊าซหุงต้มจาก 45 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเวลา 3 เดือน หวังเพิ่มให้อีก 55 บาท เป็น 100 บาทในช่วงเวลา 3 เดือน โดยกระทรวงพลังงานได้หารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อจัดหาแหล่งเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม

 

ส่วนการช่วยเหลือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ผ่านบัตรสวัสดิการฯเช่นกัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอรายละเอียดจากกระทรวงพลังงาน แต่ในรายละเอียดมีตัวเลขชัดเจนอยู่แล้วว่า มีจำนวนรายย่อยที่ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างกี่ราย