ปรับโซนสีโควิด-ปรับ Test&Go-มาตรการสงกรานต์ 2565 ศบค.ชุดใหญ่เคาะวันนี้ 

18 มี.ค. 2565 | 03:00 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2565 | 17:00 น.
2.0 k

จับตาการประชุมศบค. ชุดใหญ่ วันนี้ พิจารณาต่อ พ.ร.ก.ฉูกเฉิน ปรับพื้นที่โซนสีโควิด ปรับมาตรการ Test&Go และมาตรการสงกรานต์ 2565 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 มีนาคม 2565) จับตาการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีการเสนอปรับมาตรการ การคลายล็อกดาวน์ต่างๆ การปรับโซนสีโควิดล่าสุด ปรับมาตรการ Test&Go เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 

 

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบวาระการประชุมที่จะมีการเสนอมาจาก 2 ส่วน คือ “ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.)” หรือ ศบค.ชุดเล็ก และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดังนี้ 

 

ปรับมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ

 

ข้อเสนอ ศบค.ชุดเล็ก

  • การตรวจ RT-PCR ให้ตรวจก่อนเข้าประเทศ 
  • เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศแล้วให้ตรวจแบบ ATK 
  • การตรวจเชื้อในวันที่ 5 ที่เดินทางเข้ามาจะปรับเป็นข้อแนะนำในการส่งผลตรวจผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นต้น

 

ข้อเสนอ สธ.

  • ไม่ต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง 
  • แต่ให้ตรวจ RT-PCR เพียงครั้งเดียวเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย 
  • ตรวจ ATK ซ้ำอีกครั้งในวันที่ 5 หลังเข้าประเทศ

มาตรการเทศกาลสงกรานต์ 2565 

  • สามารถจัดงานเทศกาลสงกรานต์ได้ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการรดน้ำ สรงน้ำพระ ร่วมกิจกรรมประเพณีที่วัด โดยใช้กลไกลของฝ่ายปกครองท้องถิ่นดูแลควบคุม

 

ปรับโซนสีโควิด

  • พิจารณาปรับสีพื้นที่ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ภาพรวมจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงอยู่ แต่เมื่อประเมินแล้วบางพื้นที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง อีกทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อและรักษาหายป่วยมีจำนวนใกล้เคียงกันมาอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีการปรับมาตรการในบางพื้นที่

แผนงานสู่การปรับให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น

  • สธ.จะแผนงานและกรอบการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การปรับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อทั่วไป หรือ โรคประจำถิ่น 

 

ผ่อนคลายเปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ

  • จะมีข้อเสนอตามเอกชนเสนอ แม้ว่าสธ.จะมองเป็นกิจกรรมประเภทมีปัจจัยความเสี่ยงสูงมาก เป็นสถานที่ปิด มีโอกาสแพร่เชื้อสูง 

 

ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

  • จะมีการเสนอต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันโรคยังเป็นเครื่องมือสำคัญในช่วงเวลานี้  มื่อประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้ว ก็จะกลับไปใช้กฎหมายปกติ

 

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 65 กรณีที่ กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 พิจารณาผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test&Goและการเปิดสถานบันเทิง ว่า ในวัน 18 มีนาคมนี้ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอหลายประเด็นเข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่

 

ดังนั้นขอให้มีการนำเสนอก่อน ไม่มีอะไรที่จะขันน็อตเพิ่มมากขึ้น มีแต่ที่จะทำให้มีการดำเนินการเพิ่มมากขึ้น แต่จะเป็นไปได้เพียงใดก็ต้องให้ทางศบค. พิจารณา

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุมศบค.เตรียมพิจารณามาตรการรองรับ วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นั่นเป็นหนึ่งมาตรการที่เตรียมเสนอ

 

ส่วนจะวางมาตรการจะมีการวางมาตรการเข้มขึ้นอย่างไรภายหลังการหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์มาแล้วนั้น เราคงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวังตัวเองอย่างเต็มที่

 

สำหรับเรื่องการติดเชื้อ โควิด-19 นั้นมีเหตุติดได้อย่างเดียวคือการรวมกลุ่มกัน ของคนหมู่มาก เราทราบดีว่านั่นคือสาเหตุ จึงพยายามขอความร่วมมือให้มีการป้องกันให้มากที่สุด เป็นวันครอบครัว หากทุกคนกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวกับครอบครัวอย่างเต็มที่ สมกับที่ไม่ได้เจอกันนาน คงจะไม่มีอันตราย แต่อย่าให้หลายครอบครัวมารวมกัน

 

เมื่อถามว่าปีนี้คนไทยจะสามารถเล่นสงกรานต์ได้ในรูปแบบใด นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้อยู่กับครอบครัวดีกว่า อย่าเพิ่งเน้นเรื่องของบันเทิงอะไรกันมาก

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ายัง ไม่แนะนำให้มีการสาดน้ำได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าถามตน ตนไม่แนะนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไล่สาดน้ำกัน เพราะมันจะต้องเอามันไปกวนน้ำ เอาดินสอพอง มาปะหน้ากัน ทำให้เกิดการสัมผัสกันมากมายไปหมด

 

เมื่อถามว่า กิจกรรมทางประเพณีไทย สามารถทำได้หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวบุพการี เป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายอยู่แล้ว ดังนั้นให้ดีที่สุด คือ สวมใส่หน้ากากอนามัย ฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ยอมออกมาฉีดวัคซีนดังนั้นขอแนะนำให้ลูกหลานได้ช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ออกมาฉีดวัคซีน

 

และอีกอย่างหนึ่งซึ่งเข้าท่าดีโดยแพทย์แนะนำมาว่า คลีนอัพตัวเอง ก่อนที่จะกลับบ้านต่างจังหวัด 1 สัปดาห์ พยายามไม่ไปดินเนอร์ สังสรรค์ กับเพื่อนฝูง ไม่พบปะผู้คนจำนวนมาก หรือเข้าไปในสถานที่เสี่ยง สัก 7 วัน แล้วค่อยกลับบ้านที่ต่างจังหวัดตรงนี้สะอาดแน่ จะสามารถลดอัตราการติดเชื้อได้มากทีเดียว ตนเชื่อว่าประชาชนมีความเข้าใจแล้วว่าการติดเชื้อเกิดจากกิจกรรมการรวมตัวของ ผู้คนจึงติดได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุม ศบค. จะประกาศมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ออกมาให้ประชาชนปฏิบัติเป็นข้อๆเลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คงมีมาตรการ เพราะบางอย่างไม่ได้อยู่ที่ศบค.

 

เรื่องของวิธีการป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่างๆ เป็นภารกิจของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว หลักที่บอกมาทุกอย่าง ก็เป็นหลักปฏิบัติของทั้งปี ไม่ใช่หลักที่จะใช้เพียงเทศกาลสงกรานต์อย่างเดียว อย่างไรก็ตามในส่วนของต่างจังหวัด หรือในจังหวัดท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่จะต้องช่วยกันในเครือข่ายที่มี