GGC เข็น 3 ยุทธศาสตร์ เสริมแกร่งเคมีภัณฑ์ชีวภาพ-ดันนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์

16 มี.ค. 2565 | 11:36 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มี.ค. 2565 | 19:02 น.

GGC เดินหน้า 3 ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กร สร้างรากฐานที่เข้มแข็ง ผ่านการลงทุนในนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ และการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอน ไดออกไซด์ พร้อมสร้างความสามารถในการแข่งขันเติบโตในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

 

นายไพโรจน์ สมุทรธนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2565 ว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่เข้มแข็ง  สร้างความสามารถในการแข่งขันในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับสากล ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ

 

  • ยุทธศาสตร์การยกระดับความสามารถในการแข่งขัน (Strengthen Business as Usual - BAU) เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทฯ มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพในการแข่งขันในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายบริษัทฯ ต้องเร่งการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและมีความยืดหยุ่น (Resilience) และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง โดยมุ่งเน้นการสร้างฐานตลาดและการขายให้เข้มแข็ง, การบริหารจัดการด้าน Supply Chain ให้มีประสิทธิภาพโดยบริหารจัดการต้นทุนได้ดีที่สุด และมุ่งเน้นการรักษาความมั่นคงด้านการผลิต (Plant Reliability) รวมถึงความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการ (Operational Excellence)

 

 

  • ยุทธศาสตร์การเติบโตในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Growth Portfolio) ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความผันผวนและอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีการแข่งขันสูง บริษัทฯพิจารณาการต่อยอดทางธุรกิจไปสู่ด้านเคมีภัณฑ์และพลาสติกชีวภาพมากขึ้น เพื่อลดแรงกดดันทางธุรกิจและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันมากขึ้น รวมถึงการตอบรับกับโอกาสทางธุรกิจจากแนวทางและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชีวภาพ (Biochemicals) และพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของ GC Group

 

GGC เข็น 3 ยุทธศาสตร์ เสริมแกร่งเคมีภัณฑ์ชีวภาพ-ดันนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์

 

  • ยุทธศาสตร์การสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ (Sustainability Development) บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะยกระดับการดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง และมีการเชื่อมโยงโอกาสและต่อยอดทางธุรกิจมากขึ้น โดยการเป็นต้นแบบในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ทั้ง 3 มิติ (BCG Role Model) ผ่านการลงทุนในนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ การใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization Pathway) และการปรับรูปแบบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ (CSR) สู่รูปแบบการสร้างสมดุลทางธุรกิจขององค์กรด้วยการพัฒนากิจกรรม/โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน (CSV & SE Model) โดยใช้ Governance, Risk Management and Compliance (GRC) มาพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการจัดการภายใน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายองค์กร

 

ทั้งนี้ ปี 2565 บริษัท มุ่งพัฒนาสร้างรากฐานที่เข้มแข็งและเพิ่มความสามารถในอนาคต โดยมีเป้าหมายความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการ (Operational Excellence) : Plant reliability ให้อยู่ในระดับ 1st quartile, การใช้ Digitalization สนับสนุนการปฏิบัติงานของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) การรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด  การต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ผ่านกลุ่มสินค้า Home and personal care

 

การเติบโตในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Growth Portfolio) : การเพิ่มมูลค่าและเพิ่มตลาดปลายทางให้กับเชื้อเพลิงชีวภาพ, การขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ (Biochemicals), ต่อยอดนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ระยะที่ 2 ที่ปีนี้ จะใช้เงินลงทุนอีกราว 1,430 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อป้อนไฟฟ้า รวมถึงระบบผลิตไอน้ำ ผลิตน้ำ บำบัดน้ำเสีย ให้กับโครงการของ NatureWorks และการขยายธุรกิจ fatty alcohol ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

 

การสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ (Sustainability) : การพัฒนา RSPO (RSPO development) บริษัทฯ  มีการดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ในการสนับสนุนมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (Round Table for Sustainable Palm Oil : RSPO) โดยบริษัทฯ มีการวางแผนในการทำงานร่วมกันกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (RSPO)

 

ทั้งนี้ การดำเนินงานในปี 2564 ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 คิดเป็น 15% โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมทั้งหมด 20,923 ล้านบาท มี Adjusted EBITDA จำนวน 1,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% ส่งผลให้ปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 774 ล้านบาท โดย GGC ยังคงยึดมั่นในพันธกิจหลักคือ การเป็นบริษัทแกนนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Flagship Company) ของกลุ่ม GC ภายใต้วิสัยทัศน์ “To be a Leading Green Chemicals Company by Creating Sustainable Value” หรือ “เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน”

 

หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3765 วันที่ 13 -16 มีนาคม 2565