ใช้ "EV" ประหยัดเงินได้เท่าไหร่ ชาร์จไฟอย่างไรให้คุ้ม เช็กเลย

ใช้ EVจะประหยัดเงินได้เท่าไหร่ เริ่มเป็นคำถามที่ผู้ใช้รถสนใจ และอยากรู้คำตอบ เพราะราคาน้ำมันวันนี้แพงเป็นอย่างมาก 

 

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า

 

ยุคน้ำมันแพง : ใช้ EV จะประหยัดตังค์ได้เท่าไหร่? ความคุ้มค่าและเทคนิคการชาร์จให้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

 

มาคำนวณกัน พ่อบ้านแม่บ้าน 

 

ตอนนี้น้ำมัน Gasohol 91 ลิตรละเกือบ 40 บาทแล้ว ถ้าราคาน้ำมันวิ่งไปที่ 200 USD/Barrel ราคาคงกระโดดไปที่ลิตรละกว่า 80 บาทให้ลมจับกันทีเดียว

 

คำถามที่อยู่ในใจทุกคนคือ ถ้าหนีไปใช้ EV คุ้มไหม ซึ่ง ณ จุดนี้แนะนำเบื้องต้นว่า ใครจะซื้อรถใหม่ ลองไปใช้ EV เลย รถยนต์ที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็ 13 ปีแล้ว รอรุ่นที่มันใช่ออกมาก็จะเปลี่ยนเลยเหมือนกัน

เทคนิคพิเศษ :

 

1.TOU (อัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาของการใช้ (Time of Use Tariff : TOU ) : แนะนำเลยว่า ถ้ามีรถ EV แล้วอยากจะประหยัด ให้ชาร์จไฟที่บ้านครับ และให้เปลี่ยนอัตราค่าไฟที่บ้านไปเป็นแบบ TOU ซึ่งช่วงกลางคืนจะราคาถูก ให้ชาร์จไฟตอนหลัง 4 ทุ่มไปถึง 9 โมงเช้า
 

 

2.ไปชาร์จตาม Charging Station ที่ยังฟรีมีอยู่หลายที่ นี่คือฟรีเลย แต่ต้องนั่งรอหน่อยครั้งละประมาณ 30 นาที เสียค่ากาแฟคุ้มค่าไฟฟรี  

 

มาดู Saving กัน :

• เริ่มจากใช้รถยนต์ธรรมดา เติมน้ำมัน
• คิดที่ราคาน้ำมัน 40 บาท/ลิตร
• รถยนต์กินน้ำมัน 16 km/ลิตร 
• ก็จะได้ว่าวิ่ง 1 km เสียค่าน้ำมัน 2.5 บาท
• ถ้าเราวิ่งทั่วๆไปเดือนละ 2,000 km ปีนึงก็ 24,000 km ใช้รถวิ่งคุ้มๆ 10 ปีก็ 240,000 km

สรุป รถธรรมดา

 

ค่าน้ำมันที่เราจะโดนตอนนี้คือ เดือนละ 5,000 บาท ปีละ 60,000 บาท 10 ปีก็โดนค่าน้ำมันไป 600,000 บาท ก็จุกอยู่ครับสำหรับมนุษย์เงินเดือน
 

 

เปลี่ยนมาใช้ EV แล้วชาร์จไฟที่บ้านในอัตรา TOU

 

ค่าไฟบ้านปกติหน่วยละ 4.5888  บาท รวม Ft ตอนนี้

 

ถ้าเป็น TOU หลัง 4 ทุ่มจะเหลือหน่วยละแค่ 2.804 บาท รวม Ft 
รถ EV กินไฟประมาณ 5 km/หน่วยไฟฟ้า (บางยี่ห้อเคลมว่าได้ถึง 7 km ก็มี) 

 

ก็จะได้ว่าวิ่ง 1 km เสียค่าไฟ 0.5608  บาท 

 

ให้วิ่งเดือนละ 2,000 km เหมือนกัน 

 

สรุป รถ EV ชาร์จไฟบ้านอัตรา TOU

 

ค่าไฟฟ้าที่เราจะโดนตอนนี้คือ เดือนละ 1,121  บาท ปีละ 13,459 บาท 10 ปีก็โดนค่าไฟไปแค่ 134,592 บาท 

 

สรุป:  
ใช้ EV ก็จะสามารถประหยัดค่าน้ำมันไปได้ถึงเดือนละ 3,787 บาท ปีละ 46,540 บาท ถ้าใช้รถ 10 ปีก็ 465,408 บาท แถมช่วยรักโลกลดการปลดปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจกด้วยนะ 

 

ถ้าน้ำมันแพงไปกว่านี้ 2 เท่า แน่นอนว่าค่าไฟขึ้นแน่ แต่จะไม่เยอะเท่าไหร่ ความคุ้มค่าก็จะคูณประมาณ 2 เท่า 

 

ดังนั้น ในสถานการ์ณแบบนี้ คิดว่า รถ EV ที่ระดับราคา 1 ล้าน บวกลบนิดหน่อยนี่ เป็นทางเลือกในการหนีจากน้ำมันแพงได้ดีมากๆ 

 

ถ้ามาตรการรัฐออกมาก็จะมีให้เลือกหลายรุ่นเลย ใครจะเปลี่ยนรถก็ลองพิจารณาดู 

 

ช่วงแรกอาจจะไม่สะดวกนักเวลาเดินทางไกล แต่ตอนนี้สถานีชาร์จกำลังสร้างกันเยอะมาก อีก 1-2 ปีสะดวกสบายแน่นอน