SCG เร่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานทางเลือกรับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ

11 มี.ค. 2565 | 14:02 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2565 | 15:12 น.

เอสซีจี ปรับกลยุทธ์รับมือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ลดปัญหาต้นทุนพลังงาน เงินเฟ้อ ชูกลยุทธ์ยืดหยุ่น ปิดทุกความเสี่ยง เร่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานทางเลือก พร้อมเดินหน้าโครงการลงทุนศักยภาพสูง

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทั่วโลกที่มีความไม่แน่นอนสูงหลายด้าน ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19  รวมถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลต่อต้นทุนพลังงาน และต้นทุนวัตถุดิบในหลายอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ตลอดจนวิกฤตระยะยาวอย่างปัญหาโลกร้อน

 

เอสซีจี  จึงได้เร่งเดินหน้าเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เข้ามาได้อย่างทันท่วงที โดยทำกลยุทธ์ระยะสั้น  

  1. ปิดทุกความเสี่ยง บริหารต้นทุนพลังงาน และดูแลซัพพลายเชน โดยจัดเตรียมวัตถุดิบให้มีปริมาณเพียงพอและอยู่ในต้นทุนที่เหมาะสม ทำสัญญาซื้อขายพลังงานล่วงหน้า พร้อมบริหารต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม  
  2. ยืดหยุ่นปรับตัวตามสถานการณ์ โดยติดตามสถานการณ์ต้นทุนพลังงาน วัตถุดิบที่สูงขึ้นตามกลไกตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้ทันท่วงที และพยายามให้เกิดผลกระทบกับลูกค้าให้น้อยที่สุด

ส่วนกลยุทธ์ระยะยาว ได้แก่

  1. เร่งแนวทาง ESG 4 Plus (มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ) ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พัฒนาสินค้าคาร์บอนต่ำ เพื่อมุ่ง Net Zero 2050  
  2. ปรับแผนโครงการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ยังคงเดินหน้าโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ในเวียดนามที่มีความคืบหน้าตามแผน 91% (ณ สิ้นปี 2564) โดยจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในครึ่งปีแรกของปี 2566 และพิจารณาทบทวนโครงการลงทุนใหม่ที่กระทบกับการใช้เงินในระยะยาว

 

เอสซีจีเชื่อว่าสามารถรับมือกับความท้าทายที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ได้ เราได้เรียนรู้จากวิกฤตอย่างโควิด -19 เมื่อ 2 ปีก่อน ดังนั้น ในปีนี้ มั่นใจว่าสามารถปรับวิธีการทำงาน ปรับองค์กรให้ยืดหยุ่น คล่องตัว ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้ทันต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะราคาพลังงานและวัตถุดิบที่พุ่งสูง เป็นตัวเร่งให้เอสซีจีทำเรื่องการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น แม้จะไม่ง่าย แต่เรามีแผนที่จะมุ่งสู่ Net-Zero ด้วยกลยุทธ์ ESG ทำให้มั่นใจว่า เราสามารถทำให้เห็นผลได้ ในขณะเดียวกันก็ยังต้องดูแลคู่ค้า คู่ธุรกิจ ชุมชนสังคม ทุกภาคส่วน (Stakeholders) ให้มีความเข้มแข็งเติบโตยั่งยืนควบคู่ไปกับยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม