เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

24 ก.พ. 2565 | 14:11 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.พ. 2565 | 21:27 น.

 ปฏิบัติการอุดรอยรั่วท่อส่งน้ำมันดิบSPRCใต้ทะเลระยองคืบหน้า ขั้นตอนแรกปิดวาล์ว3ตัวเสร็จ เดินหน้าต่อทดสอบปิดได้สนิทเพื่อทำความสะอาดผิวนอกท่ออ่อนก่อนพันอุดรูรั่ว เพื่อดูดน้ำมันค้างท่อ 1.2 หมื่นลิตรขึ้นเก็บในแทงค์บนเรือ เฝ้าระวังการรั่วไหลระหว่างซ่อม

ความคืบหน้าการปฏิบัติการอุดรอยรั่วท่อส่งน้ำมันดิบและเก็บกู้น้ำมันดิบค้างท่อใต้ทะเลระยองที่มีความลึกกว่า 20 เมตร ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRC วันที่ 24 ก.พ. 2565 ได้เข้าสู่วันที่สามของการปฏิบัติการแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นักดำน้ำของ SPRC และกองทัพเรือ สามารถปิดวาล์วทั้ง 3 ตัวได้แล้ว โดยสามารถเข้าดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เวลา 13.00 น.  นาฬิกา วันที่ 23 กพ.2565) ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่เกิดน้ำมันรั่วอีก 

นักประดาน้ำลงปิดวาล์ว3ตัวท่อขนถ่ายใต้ทะเล ขอบคุณภาพจากSPRC-กองทัพเรือ

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

เพื่อความมั่นใจ กองทัพเรือ ซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ ปิด ดูด อุด ได้ส่งยานล่าทำลายทุ่นระเบิดใต้น้ำลงสำรวจ เพื่อทำการสำรวจดูสภาพแวดล้อม และลักษณะต่าง ๆ ใกล้แนวจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ ยานสามารถเข้าถึงเป้าหมายท่อจุดเกิดเหตุได้หรือไม่

 

เนื่องจากยานนี้ถูกออกแบบให้วิ่งเข้าหาทุ่นระเบิดใต้น้ำ แต่เมื่อนำมาปรับใช้กับภารกิจนี้ ซึ่งพบว่าตามแนวท่อใต้น้ำมีสายต่าง ๆ ซับซ้อน รวมถึงสายสื่อสารแบบไฟเบอร์ออฟติกอยู่ด้วย อาจทำให้ไม่สะดวกในการเข้าสำรวจ

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

สำหรับภารกิจวันที่ 24 ก.พ.2565 จะส่งนักประดาน้ำลงดำสำรวจตามแนวท่ออีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ไม่มีรอยรั่วเพิ่มหรือรอยรั่วใหม่ ตามแนวท่อส่งน้ำมันดิบ โดยการใช้ก๊าซไนโตรเจนทดสอบบอลวาล์วทั้ง 3 ตัว ว่าสามารถกันรั่วได้  ถ้าวาล์วกันรั่วได้ 100 % จะทำความสะอาดพื้นผิวด้านนอกของท่ออ่อนบริเวณที่จะพันหุ้ม พันหุ้นจุดรูรั่วก่อนการดูดน้ำมันตกค้าง จำนวน 12,000 ลิตร ที่ค้างอยู่ในท่อออก โดยทำการดูดขึ้นเก็บในแทงค์บนเรือที่เตรียมไว้ 

 

ต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ที่นักประดาน้ำของSPRC และกองทัพเรือ ร่วมดำน้ำเพื่อลงยังจุดเกิดเหตุใต้ทะเล มีระดับความลึกประมาณ 25-30 เมตร  โดยนักดำน้ำแต่ละคนจะใช้เวลาในการปฏิบัติภารกิจประมาณ 15- 20 นาที สลับหมุนเวียนกัน  เพื่อเตรียมการและปิดวาล์วทั้ง 3 ตัว และเริ่มต้นการดูดน้ำมัน ออกจากท่อน้ำมัน ที่ประมาณการณ์ไว้ตกค้างไว้   12,000 ลิตร  และจากการสำรวจบริเวณท่อส่งน้ำมัน ไม่พบรอยรั่วเพิ่มเติม  โดยการปฏิบัติภารกิจทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 11 วัน

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

โดยระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ใต้ทะเล ได้มีการเตรียมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน หากเกิดการผิดพลาดขึ้น โดยได้มีการติดตั้งบูมจำนวน 5 เส้น ความยาว 200 ม. รอบทุ่นลอยขนถ่ายน้ำมันตลอดเวลา และใช้เรือลากจูงจากกองทัพเรือ จำนวน 10 ลำ ติดตั้งอุปกรณ์ฉีดพ่นสารเคมีขจัดคราบน้ำมันบนเรือ 3 ลำ หากเกิดรั่วไหลในทะเล และติดตั้งอุปกรณ์เก็บคราบน้ำมันบนเรือ ที่สามารถเก็บน้ำมันผสมน้ำได้ 100,000 ลิตร/ชั่วโมง 

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

รวมทั้งเตรียมเรือรับคราบน้ำมันที่สูบขึ้นจากทะเล ที่สามารถรับน้ำมันผสมน้ำได้ถึง 600,000 ลิตร ติดตั้งเต๊นท์ดักคราบน้ำมันใต้ทะเล และติดตั้งปั๊มดูดคราบน้ำมันออกจากเต๊นท์ใต้ทะเล นอกจากนี้ยังเตรียมเรือหลวงหนองสาหร่าย เฝ้าระวังและบันทึกภาพการทำงานใต้ทะเล และนักประดาน้ำ 24 คน พร้อมตลอดเวลา  ขณะเดียวกันมีการประชาสัมพันธ์ ไม่ให้เรือที่มิได้อยู่ในภาระกิจเข้ามาในพื้นที่ปฏิบัติการ

 

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2565 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ผลการปฎิบัติที่ดำเนินการแล้ว 2 วัน เบื้องต้นบริษัทรายงานว่า ไม่พบปัญหาอุปสรรคใด ๆ  ราบรื่นดี มีผู้เชี่ยวชาญ และวิศวกรจากต่างประเทศของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันเข้ามาช่วยด้วย ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดูดน้ำมันออกจากท่อ แต่อยู่ระหว่างการปิดวาล์ว ก่อนจะพันรอยปริหรือแตกของท่อ เสร็จแล้วถึงจะทำการดูดน้ำมันออกจากท่อ 

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร 

อย่างไรก็ตามไม่ได้กำหนดวันแล้วเสร็จ ตามแผนที่วางไว้ 11 วัน แต่ยึดเรื่องความปลอดภัย และความรอบคอบไว้ก่อน ไม่อยากให้มีการรั่วซ้ำขึ้นมาอีก จำเป็นจะต้องรอบคอบ จะกี่วันแล้วเสร็จขึ้นอยู่กับหน้างาน 

เริ่มปฎิบัติการดูดน้ำมันค้างท่อSPRC1.2หมื่นลิตร