"ครูนิคกี้"ว่ายข้ามอำเภอ23กม.บางปะอิน-อยุธยา ปลุกใจ"มะเร็งหายได้"

เพจเฟซบุก"สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา" เผยแพร่กิจกรรมว่ายน้ำข้ามอำเภอ 23 กม. สร้างแรงบันดาลใจผู้ป่วยมะเร็งหายได้ มีรายละเอียดว่า
    

....เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ( 21 ม.ค. 2565) นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายวัชระ กระแสร์ฉัตร  นายอำเภอบางปะอิน  ได้ร่วมกันปล่อยตัว"นิคกี้" วิศรุตา ฟอร์ซอง อายุ 37 ปี อดีตนักกีฬาว่ายน้ำ ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจเจ้าของพูลวิลล่า เกาะสมุย 

เพื่อว่ายทวนกระแสน้ำออกจากจุดเริ่มต้น ท่าน้ำหน้าวัดนิเวศธรรมประวัติ ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน เพื่อมุ่งหน้าไปยังวัดพุทไธศวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมระยะทาง 23 กิโลเมตร

จากนั้นช่วงบ่าย เวลา 14.30 น. ที่วัดพุทไธศวรรย์ นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รอง ผวจ. และนายก อบต.สำเภาล่ม มาให้การต้อนรับ  พร้อมทั้งชื่นชมในความสามารถ และความตั้งใจของครูนิคกี้ ที่สามารถว่ายน้ำมาจนสำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

นางสรัลพัชร ประโมทะกะ เปิดเผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรมว่ายน้ำมาราธอนข้ามอำเภอ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องใน "วันยุทธหัตถี" และ "วันกองทัพไทย" โดยได้รับการประสานงานจาก คุณวิศรุตา ฟอร์ซ็อง (ครูนิคกี้) อดีตนักกีฬาว่ายน้ำมาราธอน และอดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย จะมาสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งในการใช้ชีวิตต่อไป ด้วยวิธีการว่ายน้ำบำบัดโรค โดยเริ่มปล่อยตัวจากท่าน้ำวัดนิเวศธรรมประวัติ อำเภอบางประอิน ไปสิ้นสุดที่วัดพุทไธศวรรย์ อำเภอพระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 23 กิโลเมตร 

ด้าน ครูนิคกี้ เปิดเผยว่า การว่ายน้ำในวันนี้ลำบาก แตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้มาก ทำให้ตั้งแต่เริ่มออกตัวเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ยังไม่สามารถทำระยะทางได้ จากเดิมที่วางไว้ว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5-6 ชั่วโมง จะถึงวัดพุทไธศวรรย์ ประมาณ 12.30 น แต่จากการว่ายจริงใช้เวลามากกว่า 7 ชั่วโมงเศษ  ในระยะทาง 23 ก.ม. โดยมีเรือของหน่วยกู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจ ชุดเคลื่อนที่เร็ว และเจ้าท่า 

ส่วนสาเหตุที่ว่ายน้ำข้ามอำเภอ เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่า การป่วยเป็นมะเร็งในระยะที่เหลือเวลา 8 เดือน ก็สามารถหายได้ด้วยการออกกำลังกายเล่นไตรกีฬา หรือออกกำลังอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการระลึกถึงวันยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกด้วย

ขอขอบคุณ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา