ไทยเสี่ยงเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อสูง ไตรมาส2

16 ม.ค. 2565 | 12:29 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ม.ค. 2565 | 20:20 น.

ไทยเสี่ยงเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อสูง ไตรมาส2 ชี้โรคระบาดในหมู เปิดโอกาสPlant-based Foodขขึ้น Mega Trend ของอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต

เตือนราคาอาหารพุ่งสูง  เดือดร้อนประชาชนผู้บริโภคโดยเฉพาะคนจนเมือง  หากเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาสสอง ไทยจะเกิด Stagflation ชี้ Mega Trend ของอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต “ เนื้อหรืออาหารที่ทำมาจากพืช : Plant-based Food” จะเข้ามา Disrupt อุตสาหกรรมเลี้ยงปศุสัตว์และธุรกิจอาหารทั้งระบบ

ไทยเสี่ยงเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  เงินเฟ้อสูง ไตรมาส2

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต เปิดเผยว่า สัญญาณของการเกิดภาวะ Stagflation เริ่มชัดเจนขึ้น มีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญภาวะ Stagflation คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เติบโตต่ำและเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาก สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เผชิญอยู่เวลานี้คือ รายได้ชะลอตัว หนี้สินท่วม ค่าครองชีพสูงขึ้น แถมยังว่างงานอีกหรือทำงานต่ำระดับ

ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการนโยบายเข้มงวดทางการเงินเพิ่มขึ้นหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเพราะช่องว่างการผลิต (Output Gap) ของเศรษฐกิจไทยยังติดลบค่อนข้างมาก มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออยู่จำนวนมาก การใช้นโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายมีความจำเป็นต่อการประคับประคองการฟื้นตัวของการจ้างงานและการกระเตื้องขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัญหาทางด้านอุปทานเป็นหลัก คือ ราคาพลังงานสูงขึ้น บาทอ่อนค่า และราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้นจากภัยแล้งในพื้นที่เกษตร ขณะที่ก่อนหน้านี้เกิดน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรม ได้รับความเสียหาย สะท้อนความไม่สามารถในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบและไม่มีลงทุนระบบชลประทานอย่างจริงจัง

 

ล่าสุด เกิดโรคระบาดในหมูทำให้ซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้เนื้อหมูในตลาดลดลง ราคาแพงขึ้น แต่สิ่งนี้อาจเป็นโอกาสของสินค้าประเภท เนื้อที่ทำมาจากพืช (Plant-based Meat) หรือ อาหารที่ทำมาจากพืช (Plant-based Food) และเนื้อสัตว์ที่สามารถทดแทนกันได้กล่าวถึง เนื้อหรืออาหารที่ทำมาจากพืชนี้กำลังมาแรง และ น่าจะเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมใหญ่ในอนาคต เป็นอาหารส่งเสริมสุขภาพ ลดการฆ่าสัตว์และสิ่งมีชีวิตชีวิตอื่นๆ ทำให้ระดับคุณธรรมสูงขึ้น

 

 ตอนนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคอาหารมากมาย ก่อนหน้ามีเทรนด์ของคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ทานมังสวิรัติ หรือเป็นกลุ่ม Vegan ที่ต่อต้านการละเมิดชีวิตสัตว์ทุกประเภท ตนเชื่อว่า Plant-based Food จะไม่ใช่แค่ ตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ Niche Market เป็น แนวโน้มใหญ่ Mega Trend ของอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต จะเข้ามา Disrupt และ ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมเลี้ยงปศุสัตว์และธุรกิจอาหารทั้งระบบอย่างแน่นอน แม้ว่าขณะนี้ เนื้อหรืออาหารที่ทำมาจากพืชจะมีราคาแพงอยู่ เมื่อผู้ผลิตปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภค ราคาจะค่อยๆลดลงในอนาคต 

 

ราคาสินค้าอุตสาหกรรมบางส่วนปรับตัวสูงขึ้นจากการขาดแคลนวัตถุดิบ การชะงักงันระบบจัดส่งและค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นยังดำรงอยู่ ปัญหาบางส่วนเกิดจากการหยุดดำเนินการผลิตของโรงงาน เกิดการการชงักงันของระบบจัดส่งโลจีสติกส์ จากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดก่อนหน้านี้

 

อย่างไรก็ตาม ภาวะ Stagflation ของเศรษฐกิจไทยอาจเกิดขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นหลังเดือนมีนาคม ไทยอาจเผชิญภัยแล้งรุนแรงทำให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย และ ในบางพื้นที่ไม่มีการทำเกษตรเนื่องจากขาดน้ำ ราคาอาหารซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการคำนวณเงินเฟ้อจะพุ่งสูง

หากเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาสสอง ไทยจะเกิด Stagflation แน่นอน ฉะนั้นต้องคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดโอมิครอนให้ได้ เพื่อไม่ให้มีการ Lockdown และ สามารถกลับมาเปิดประเทศได้เต็มที่ ภาคการท่องเที่ยวจะได้กระเตื้องขึ้น  

ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณของ Excess Demand ใดๆ ในเศรษฐกิจภาคการผลิต อุปสงค์มวลรวมยังกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นผลจากมาตรการทางการคลังกระตุ้นการบริโภคการใช้จ่าย ไม่ได้เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของภาคครัวเรือนภาคธุรกิจมากนัก ภาวะฟองสบู่เกิดขึ้นในตลาดการเงินโดยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ขอเตือนให้ระมัดระวังฟองสบู่และส่งผลลบต่อภาคการลงทุนและภาคการเงินได้ ภาวะ Excess Supply ยังคงมีอยู่ในสินค้าส่วนใหญ่ ยกเว้นสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรบางตัวนั้นเกิดสถานการณ์ตรงกันข้าม คือ เกิด Supply Shocks เนื่องจาก เกิดโรคระบาดหมูทำให้ เนื้อหมูราคาแพง พืชผักผลไม้แพงเนื่องจากหลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ที่ผ่านมารัฐบาลก็ลงทุนปรับปรุงระบบชลประทานน้อยมาก ราคาอาหารแพงแบบนี้จึงไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ผลิตแต่อย่างใด

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจกล่าวทิ้งท้ายว่า การใช้ มาตรการสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด หรือ เอาเงินงบประมาณไปซื้อเนื้อหมูหรือพืชผลเกษตรแล้วเอาขายต่อให้ประชาชน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาหน้า ช่วยบรรเทาปัญหาได้เล็กน้อยมากๆ และ ยังจะเกิดช่องทางของการทุจริตรั่วไหลจากการใช้งบประมาณ หรือ เอื้อประโยชน์ให้คนในเครือข่ายของตัวเอง จึงไม่ใช่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งเป็นช่องทางในการหาประโยชน์จากนโยบายได้

 

วิธีการแก้ปัญหา คือ ควบคุมโรคระบาดให้ได้ และ เพิ่มปริมาณเนื้อหมูเข้าสู่ตลาด หรือ ส่งเสริมสินค้าอื่นๆที่ใช้ทดแทนเนื้อหมูได้ เช่น Plant-based Food ขณะที่ Plant-based Food Plant สามารถสร้างโอกาสมากมายทั้งทางธุรกิจ และเรื่องของสุขภาพ ช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมของโลกอีกด้วย นอกจากจะทำให้สุขภาพและสิ่งแวดล้อมดีขึ้นแล้ว ในแง่ธุรกิจยังสามารถขายผู้ป่วยได้ หรือคนที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพได้ด้วย เพิ่มสมรรถนะร่างกาย มีโปรตีนที่สร้างกล้ามเนื้อได้ดีกว่า