เฮ ผู้ประกันตน ประกันสังคมม.33 ม.39 ครม.เคาะเพิ่มบำเหน็จชราภาพ

04 ม.ค. 2565 | 13:54 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2565 | 02:01 น.
18.4 k

มติที่ประชุมครม.ล่าสุด อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ช่วงที่ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนเข้ากองทุนประกันสังคม 1ม.ค.-31มี.ค.64 ให้ผู้ประกันตนประกันสังคมม.33 และ ม.39 ได้รับประโยชน์ทดแทนบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น

วันที่ 4 ม.ค. 65 น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ (สำหรับผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม)

ทั้งนี้เพื่อกำหนดอัตราการจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 โดยกำหนดให้การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2564 

ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.45 ของค่าจ้าง และกำหนดให้การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-31 มีนาคม 2564 ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.3 ของค่าจ้าง

สำหรับการปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบกรณีชราภาพดังกล่าว มีผลทำให้ผู้ประกันตนได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น ดังนี้

  • ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 347 บาทต่อคนต่อสามงวด  
  • ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 146 บาทต่อคนต่อสามงวด  

โดยในภาพรวมผู้ประกันตนได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 1,906 ล้านบาท จำแนกเป็น

  • ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 1,783 ล้านบาท
  • ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 123 ล้านบาท 

โดยไม่ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายของกองทุนประกันสังคมเพิ่มขึ้น จึงไม่มีผลกระทบต่อกองทุนประกันสังคม และเพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินบำเหน็จชราภาพที่เพิ่มขึ้นไปใช้จ่ายเพื่อยังชีพในยามชรา เป็นการบรรเทาปัญหาทางการเงินของผู้ประกันตนได้บางส่วน