ครม.ขยายเวลาให้นายจ้างลงทะเบียนส่งเสริมจ้างงานเอสเอ็มอีรอบ 2 ถึง 20 ธ.ค.64

23 พ.ย. 2564 | 16:15 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2564 | 17:25 น.

ครม. เห็นชอบขยายระยะเวลานายจ้างลงทะเบียนส่งเสริมจ้างงานเอสเอ็มอีรอบ 2 ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 20 ธ.ค. นี้ พร้อมอนุมัติปรับปรุงโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี  

23 พฤศจิกายน 2564 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เห็นชอบให้มีการปรับปรุงโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อให้การดำเนินโครงการ ฯ บรรลุวัตถุประสงค์ รวมทั้งธุรกิจ SMEs สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง รายละเอียดในการปรับปรุงโครงการ ดังนี้

เงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุน   

1.นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปโดยให้มีผลในงวดเงินสมทบเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป (นำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2564) 

วิธีดำเนินงาน  

  • เพิ่มช่องทางการลงทะเบียน ทั้งผ่านเว็บไซต์ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th และยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐาน ณ สำนักงานจัดหางานหรือหน่วยเคลื่อนที่ของสำนักงานจัดหางานเพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลลงในระบบแทนนายจ้าง
  • ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนโดยผู้ลงทะเบียนรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. -  20 ธ.ค. 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย ไม่เกิน 200 คน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 และมกราคม 2565)  
  • ปรับปรุงรูปแบบการจ่ายเงินอุดหนุน หลังจากวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากรัฐยังจ่ายเงินอุดหนุนยังไม่ครบถ้วนอีก ให้สามารถจ่ายเงินเพิ่มเติมได้จนกว่าจะครบถ้วนตามสิทธิ์ที่นายจ้างพึงได้รับ

มาตรการทางภาษี

  • เงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้นายจ้างจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี  โดยนายจ้างจะต้องไม่มานำเงินอุดหนุนดังกล่าวไปคำนวณเป็นรายได้และรายจ่ายในการหักภาษี 

ทั้งนี้ กรมสรรพากรยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการภาษี ต่อไป

นางสาวไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานโครงการ ฯ ตั้งแต่ 20 ต.ค.-10 พ.ย. นายจ้างเข้าร่วมโครงการจำนวน 127,613 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 32.34 ของเป้าหมายในจ้าง ลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 2,062,356 คน คิดเป็นร้อยละ 51.12 ของเป้าหมายลูกจ้างสัญชาติไทย  ทั้งนี้ นายจ้างที่ได้รับการอนุมัติแล้ว จำนวน 47,742 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 37.41 ของนายจ้างที่ลงทะเบียน ที่เหลืออยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่อนุมัติเข้าร่วมโครงการ หรืออยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขข้อมูล
 
ทั้งนี้ ขอให้นายจ้างที่ประสงค์ จะเข้าร่วมโครงการฯ มั่นใจได้ว่า เงินอุดหนุนจากโครงการ ฯ นายจ้างจะไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นเพราะจะไม่ถูกคำนวนเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการหักภาษี