สยบดราม่า ทิ้งสัตว์เลี้ยงติดโควิด ยันไม่พบหลักฐานการแพร่เชื้อสู่คน

08 พ.ย. 2564 | 15:36 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2564 | 22:36 น.

อธิบดีกรมปศุสัตว์ สยบดราม่า ทิ้งสัตว์เลี้ยงติดโควิด ยันไม่พบหลักฐานการแพร่เชื้อ วอนผู้เลี้ยงตระหนักอย่า ยันไม่พบหลักฐานการแพร่เชื้อจากสัตว์เลี้ยงกลับสู่คน

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก และล่าสุดได้มีการเผยแพร่ข่าวทางเฟซบุ๊ก กรณีพบการติดเชื้อ COVID-19 ของสุนัขและแมวในไทย โดยอ้างอิงว่ามาจากงานวิจัยทีมคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ในวารสารวิชาการ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาว่า ตรวจพบการติดเชื้อในสุนัข 3 ตัว จากการตรวจ 35 ตัว และแมว 1 ตัว จากการตรวจ 9 ตัว

 

โดยทั้งหมดเป็นการตรวจสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนที่มีเจ้าของติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งมีเพียงสุนัข 1 ตัวเท่านั้นที่แสดงอาการเล็กน้อย ส่วนสัตว์เลี้ยงที่เหลือไม่แสดงอาการ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวลและสร้างความตระหนกต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงในไทยอย่างมากถึงความสามารถถ่ายทอดเชื้อจากสัตว์เลี้ยงกลับไปยังเจ้าของสัตว์ได้

 

สัตว์เลี้ยง

 

ปัจจุบันในขณะที่ทั่วโลกกำลังรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ก็มีรายงานการติดเชื้อในสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มมีรายงานการตรวจพบเชื้อครั้งแรกในสุนัขและแมวในฮ่องกงในปี 2563 และมีหลักฐานว่าแมวติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนสามารถแพร่เชื้อไปยังแมวตัวอื่นได้

 

ต่อมาพบการติดเชื้อในตัวมิงค์ที่ประเทศเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ และพบเชื้อในแมวที่มีอาการทางระบบหายใจและทางเดินอาหารในประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นสุนัขและแมวที่ใกล้ชิดกับเจ้าของที่ติดเชื้อ COVID-19

 

 มีรายงานการพบเชื้อในเสือโคร่ง แสดงอาการทางระบบหายใจ ในสวนสัตว์ที่สหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าติดเชื้อมาจากพนักงานดูแลสัตว์ที่ติดเชื้อ และยังมีรายงานว่าสามารถแพร่สู่สัตว์อื่นๆ ได้ เช่น กวาง พังพอน เสือ สิงโต หรือแม้แต่สัตว์ตระกูลลิงกอริลลา สำหรับประเทศไทยพบมีรายงานครั้งแรกในเดือนเมษายน 2564

 

จากสุนัขที่นำมาผ่าตัดขาเนื่องจากเป็นมะเร็งที่โรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยหลังผ่าตัดเพื่อนบ้านเจ้าของสุนัขได้แจ้งให้แพทย์ทราบว่าเจ้าของสุนัขติดเชื้อโควิด-19 จึงได้มีการเก็บตัวอย่างจากสุนัขและตรวจพบเชื้อดังกล่าว จากข้อมูลการตรวจพบเชื้อ COVID-19 ในสัตว์กลุ่มที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าสัตว์เหล่านี้ใกล้ชิดกับเจ้าของหรือได้รับการดูแลจากผู้ที่ติดเชื้อ เป็นการติดเชื้อจากคนสู่สัตว์

 

โดยปัจจุบันมีหลักฐานชัดเจนว่า มนุษย์สามารถแพร่เชื้อไปสู่สัตว์เลี้ยงได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามีการแพร่เชื้อกลับจากสัตว์เลี้ยงไปสู่คน เพื่อเป็นแนวทางดำเนินการและข้อปฏิบัติในการดูแลสัตว์เลี้ยงของผู้ติดเชื้อ กรมปศุสัตว์จึงได้แจ้งข้อพึงปฏิบัติและมาตรการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงหากตรวจพบโรคโควิด-19 ในสัตว์เลี้ยงหรือสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงติดเชื้อ สำหรับสถานพยาบาลสัตว์ที่รับฝากหรือรักษาสัตว์เลี้ยงในกรณีที่เจ้าของสัตว์ป่วยด้วยโรคโควิด-19

รวมถึงข้อควรปฏิบัติไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://dcontrol.dld.go.th เมนูข่าวสารประชาสัมพันธ์ หัวข้อเตรียมความพร้อมกำหนดแนวทางการดูแลสัตว์เลี้ยงของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มหาวิทยาลัย ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศ องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) อย่างต่อเนื่อง

 

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มว่า ขอให้ผู้เลี้ยงสัตว์ทุกท่านอย่าตื่นตระหนกและไม่ละทิ้งสัตว์เลี้ยง ซึ่งการทิ้งสัตว์เลี้ยงเป็นการเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 โดยเน้นย้ำว่าในปัจจุบันสามารถระบุได้เพียงว่าสุนัขและแมวสามารถติดเชื้อโควิด-19 จากคนป่วยได้เท่านั้น

 

ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลว่าสามารถแพร่เชื้อจากสัตว์เลี้ยงกลับสู่คนได้ ซึ่งได้มีการศึกษาร่วมกันระหว่างกรมปศุสัตว์และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการเก็บตัวอย่างในสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของนำมาเข้ารับบริการในโรงพยาบาลสัตว์จำนวน 120 ตัว ยังไม่พบการติดเชื้อซึ่งแสดงให้เห็นว่าเชื้อโควิด-19 และยังไม่มีการแพร่กระจายทั่วไปในสัตว์เลี้ยง

โควิดใน หมาแมว ไม่ติดต่อกลับสู่คน

 แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันและลดความความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (COVID-19) ระหว่างคนและสัตว์เลี้ยง จึงขอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน และหากท่านอยู่ในกลุ่มสงสัยว่าติดเชื้อหรือป่วยจากเชื้อ COVID-19 ควรแยกตัวออกจากผู้อื่น รวมถึงสัตว์เลี้ยงของท่าน ควรให้บุคคลอื่นที่มีสุขภาพดีเป็นผู้ดูแลสัตว์แทน หากสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงสัมผัสโรคหรือสัตว์ติดเชื้อ เช่น มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยและมีอาการที่เข้าข่ายของโรค ควรกักสัตว์แยกไว้ไม่เข้าไปคลุกคลีอย่างน้อย 14 วัน ในกรณีจำเป็นต้องการนำไปฝากเลี้ยงหรือทำการตรวจรักษาให้โทรศัพท์ปรึกษาสัตวแพทย์และแจ้งให้ทราบถึงประวัติเสี่ยงของท่านและสัตว์ก่อน ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงไปยังสถานพยาบาลสัตว์โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

 

ทั้งนี้ สามารถติดต่อปรึกษา หรือ ขอคำแนะนำเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ และ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทุกแห่ง หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร 063-225-6888 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง