ธ.ก.ส.เคาะจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวงวดแรก 9 พ.ย. 64

05 พ.ย. 2564 | 15:18 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2564 | 19:29 น.
17.0 k

รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าว เคาะวันจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวงวดแรก 9 พ.ย. 64 ด้านพาณิชย์มั่นใจส่งออกข้าวปีนี้ได้ราว 6 ล้านตัน ตามที่ตั้งเป้าไว้

วันนี้ 5 พ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาราคาข้าวในขณะนี้ ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส.) เร่งหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็วที่สุด
.
ล่าสุด ธ.ก.ส. แจ้งว่าจะสามารถโอนเงินประกันรายได้ข้าวให้เกษตรกรงวดแรก ในวันที่ 9 พ.ย. 64 หลัง ครม. มีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 64/65 เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 64 โดยกำหนดราคาข้าวเปลือกที่ความชื้นไม่เกิน 15% เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท พร้อมมาตรการคู่ขนาน 
.

ส่วนกระทรวงพาณิชย์ ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการนอกพื้นที่เข้าไปช่วยรับซื้อข้าวเหนียวใน 7 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมอนุมัติโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกฯ เพื่อกระตุ้นการแข่งขันและราคา จำนวน 30 จุด ใน 19 จังหวัดอีกด้วย

 

นายธนกร กล่าวถึงราคาข้าวที่ลดต่ำลงในช่วงนี้ว่า  มาจากปัจจัยหลายด้าน เช่น การส่งออกข้าวไปต่างประเทศและการบริโภคในประเทศที่ลดลง ปริมาณฝนตกชุกและปัญหาน้ำท่วมส่งผลต่อคุณภาพข้าว อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมากขึ้นในช่วง 6 เดือนหลัง ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันข้าวไทย  คาดว่าปีนี้จะส่งออกได้ราว 6 ล้านตันตามที่ตั้งเป้าไว้   ประกอบกับความต้องการบริโภคในประเทศสัญญานดีขึ้นจากการเปิดประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมที่เริ่มคลี่คลายลง และมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เข้าไปแก้ไขปัญหา จะช่วยให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดดีขึ้นเป็น

อนึ่งมาตรการดูแลเกษตรกร มีทั้งโครงการประกันรายได้ปี 64/65 โดยกำหนดราคาข้าวเปลือกที่ความชื้นไม่เกิน 15% เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท

 

ส่วนมาตรการคู่ขนานเหมือนกับปีก่อนโดยให้เกษตรกรรวบรวมจัดเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ซึ่งจะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท และรับซื้อข้าวเปลือกกับสหกรณ์และโรงสีเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 2-6 เดือน สำหรับโรงสี และ 1 ปี สำหรับสหกรณ์