ดีเซลบี 7 ราคาลง 1 บาทมีผลพรุ่งนี้หลัง กบง. ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน

04 ต.ค. 2564 | 14:54 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2564 | 22:20 น.
1.6 k

ข่าวดีราคาน้ำมันดีเซลบี 7 ลง 1 บาทมีผลวันพรุ่งนี้หลัง กบง. มีมติลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมปรับลดสัดส่วนดีเซลเหลือบี 6 ชนิดเดียวตั้งแต่ 11-31 ตุลาคม 64

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)  มีมติเห็นชอบให้ปรับลดสัดส่วนไบโอดีเซลน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้มีสัดส่วนจากบี 10 ,บี 7 เหลือสัดส่วนเดียว คือ บี 6 เป็นระยะเวลาสั้น  
ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงานจะมีการออกประกาศกำหนดลักษณะคุณภาพของน้ำมันดีเซลเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 64 ถึง 31 ตุลาคม 64 เพื่อที่จะลดน้ำมันฐานให้การผสมเหลือ 6%  เพื่อให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยเหลือน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ดำเนินการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากปัจจุบันที่เก็บจากบี 7 จำนวน 1 บาท เพื่อเข้ากองทุนน้ำมันฯ เหลือ 1 สตางค์ รวมถึงลดค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาจากเดิมมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80 บาท หรือ 1.40 บาท หรือลดลง 40 สตางค์

"การปรับลดดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาบี 7 วันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) ลดลงประมาณ 1 บาท ราคาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจะลดจาก 31.29 บาทต่อลิตร เหลือประมาณ 30.29 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาบี 6 จะอยู่ที่ประมาณ 28.29 บาทต่อลิตร 
อย่างไรก็ดี การดูแลราคาน้ำมันให้อยู่ในกรอบ 30 บาทต่อลิตร ต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชนด้วยในการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยต้องเรียนว่ามาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการระยะสั้นถึงสิ่้นเดือนตุลาคม ซึ่งกระทรวงพลังงานจะประเมินสถานการณ์ของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง

โดยหากโอเปกพลัสเพิ่มกำลังผลิตมากกว่าแผนงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 (covid-19) ที่เริ่มคลี่คลาย และการเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว และก่อให้เกิดความร้อนกับประชาชนเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด นั่นก็คือวันที่ 31 ตุลาคม 64 ก็จะมีมาตรการอื่นออกมาอย่างเหมาะสม  หรือมีการออกมาตรการฉุกเฉินต่อไป เพื่อไม่ให้ประชาชนที่ใช้งานอยู่ประมาณ 10 ล้านคันได้รับผลกระทบ

 

"การดูแลราคาดีเซล ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร นั้น  ล่าสุดเงินกองทุกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะสุทธิกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท การดูแลดีเซลตามแผนระยะสั้น จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 64 จะใช้เงินประมาณ 3 พันล้านบาท  และเพื่อให้มั่นใจว่ากองทุนน้ำมันฯจะดูแลราคาพลังงานได้ต่อเนื่อง  กระทรวงพลังงานโดยกองทุนน้ำมันฯจะหารือขอกู้เงินจากกระทรวงการคลังมาดูแล โดยยืนยันเชื้อเพลิงจะไม่ขาดแคลน และราคามีเสถียภาพ ซึ่งตามกรอบของกองทุนน้ำมันฯจะสามารถกู้มาดูแลเสถียรภาพได้ราว 2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมการใช้บี 100 เพื่อผลิตน้ำมัน จะลดลงจาก 4 ล้านลิตรต่อวัน เหลือ 3 ล้านลิตรต่อวัน โดยในส่วนดังกล่าวนี้ผู้ผลิตจะสามารถส่งออกได้ เพราะ บี 100 เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ส่วนน้ำมันดีเซลขายปลีกหน้าปั๊มจะเหลือเพียง บี 20 และ บี 6 เท่านั้น