ค้าออนไลน์ยังบูม “พาณิชย์”โชว์ยอดขายทะลุ80ลบ.

28 ก.ย. 2564 | 16:54 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2564 | 00:04 น.

“พาณิชย์”โชว์ผลงานแพลตฟอร์มกลาง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดหลังเปิดตัวขายออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ มียอดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ คาดการณ์ซื้อขายภายใน 1 ปี ทะลุ 83 ล้านบาท  

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำโครงการนำร่องแพลตฟอร์มกลาง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดเพื่อช่วยเหลือสินค้าเกษตรให้มีช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำแพลตฟอร์มกลางเพื่อให้สหกรณ์การเกษตรได้นำสินค้าขึ้นจำหน่ายทางออนไลน์ โดยการขายต่างประเทศ ใช้ Thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีสหกรณ์การเกษตรที่มีความพร้อมในการผลิตเพื่อส่งออก 9 สหกรณ์ จำนวนสินค้า 45 รายการ เช่น ข้าว นมและผลิตภัณฑ์จากนม และโคเนื้อ และในประเทศใช้ Phenixbox.com ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC มีสหกรณ์การเกษตรเข้าร่วม 19 สหกรณ์ จำนวนสินค้า 39 รายการ เช่น ข้าว นม ไข่ไก่ ผลไม้ และปุ๋ยชีวภาพ

ค้าออนไลน์ยังบูม  “พาณิชย์”โชว์ยอดขายทะลุ80ลบ.

สำหรับผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจในรูปแบบออนไลน์นำผู้ขายอย่างสหกรณ์การเกษตรมาพบกับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ สร้างยอดขายภายในหนึ่งปีทะลุ 83 ล้านบาท สินค้าเกษตรของไทยประเภทข้าวและผลิตภัณฑ์นมมาแรง

ค้าออนไลน์ยังบูม  “พาณิชย์”โชว์ยอดขายทะลุ80ลบ.

ทั้งนี้ หลังจากได้คัดเลือกสินค้าจากสหกรณ์การเกษตรนำขึ้นจำหน่ายทางออนไลน์ผ่าน 2 แพลตฟอร์มแล้ว ได้ช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่าย โดยจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ หรือ Online Business Matching กับผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศได้ร่วมกับกับทูตพาณิชย์ทำการประสานผู้ซื้อ ผู้นำเข้ามาเจรจากับสหกรณ์การเกษตร จำนวน 22 บริษัท จาก 9 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว พม่า และไต้หวัน รวม 59 คู่เจรจา เกิดมูลค่าการซื้อขายคาดการณ์ภายใน 1 ปี 2,410,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 79,460,000 บาท สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวอินทรีย์ นมอัดเม็ด ผลิตภัณฑ์นม และผลิตภัณฑ์เนื้อวัวแปรรูป โดยเฉพาะอินเดียให้ความสนใจสินค้าต่าง ๆ เป็นอย่างมาก เช่น ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด

ส่วนในประเทศ ได้จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ระหว่างสหกรณ์การเกษตรและผู้ซื้อกลุ่มโรงแรมระดับ 5-6 ดาว ในเครือบริษัท AWC จำนวน 13 โรงแรม เช่น โรงแรม The Okura Prestige Bangkok , โรงแรม The Athenee Hotel , โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park , โรงแรม Banyan Tree และโรงแรม Hilton Sukhumvit เป็นต้น รวม 41 คู่เจรจา เกิดมูลค่าการซื้อขายคาดการณ์ภายใน 1 ปี 3,000,000 บาท สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ นมโคพาสเจอร์ไรซ์ ไข่ไก่ และผลไม้ ทั้งนี้ โรงแรมยังมีความสนใจสินค้าเกษตรคุณภาพดีอื่น ๆ ของสหกรณ์เพิ่มเติม และคาดว่าจะมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นต่อไปเมื่อโควิด-19 เข้าสู่ภาวะปกติ

 

สำหรับแผนการผลักดันในระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์จะต่อยอดไปยังกลุ่มสินค้าเกษตรอื่น ๆ เช่น สินค้าปศุสัตว์ สินค้าประมง และสินค้าวิสาหกิจชุมชน เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับสินค้าเกษตรของไทย