‘บ้านนาสาร’ ฮับกระท่อม ทุ่ม20ล้านตั้งโรงงานแห่งแรก

01 ก.ย. 2564 | 17:32 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ย. 2564 | 00:42 น.
13.2 k

 บ.กระท่อมฯ ปักหมุด “บ้านนาสาร”สุราษฎร์ธานี เตรียมงบ 20 ล้านตั้งโรงงานสกัดพืชกระท่อมแห่งแรกของประเทศ เตรียมแผนจัดซื้อจากวิสาหกิจชุมชน ต้นกล้าขาดดันราคาพุ่งต้นละ 300 บาทยังไม่มีขาย บางรายโค่นยางพารามาปลูกกระท่อม ม.สงขลานครินทร์เร่งวิจัยทดแทนนำเข้า"เมทาโดน"

นายสงคราม บัวทอง กำนันตำบลนํ้าพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่มีการปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติด ประเภทที่ 5 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด บริษัท กระท่อมเพื่อสุขภาพ จำกัด จากส่วนกลาง แจ้งความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานสกัดพืชกระท่อม ในพื้นที่ตำบลนํ้าพุ อำเภอบ้านนาสารจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามิน เครื่องดื่มให้พลังงาน หมากฝรั่ง
    

บริษัทแจ้งว่า เริ่มต้นจากการตั้งสำนักงานเพื่อรับซื้อใบกระท่อม พร้อมจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับให้ความรู้เกี่ยวกับพืชกระท่อมก่อน ซึ่งจะรับซื้อใบกระท่อมจากเกษตรกรใน ตำบลนํ้าพุ ที่มีกว่า 1,578 ต้น และในอำเภอบ้านนาสาร ที่มีอยู่ประ มาณ 1 หมื่นกว่าต้น
    

“เหตุผลที่ทางบริษัทเลือกตำบลนํ้าพุ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการ เพื่อนำพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดเป็นพืชสมุนไพร และให้เป็นศูนย์กลางของภาคใต้ในการรับซื้อใบกระท่อมจากจังหวัดต่างๆ และที่สำคัญกระท่อมของที่นี่มีคุณภาพ”

‘บ้านนาสาร’ ฮับกระท่อม ทุ่ม20ล้านตั้งโรงงานแห่งแรก

นายสงคราม กล่าวอีกว่า การตั้งโรงงานสกัดพืชกระท่อมที่ตำบลนํ้าพุครั้งนี้ บริษัทคาดจะใช้งบลงทุน ประมาณ 20 ล้านบาท โดยจะรับซื้อใบกระท่อมจากวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ และถือเป็นโรงงานสกัดพืชกระท่อมแห่งแรกของประเทศไทย จะทำให้ชาวบ้านในตำบลนํ้าพุมี รายได้ และจะมีการขยายพื้นที่ปลูกกระท่อมเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านต่อไป
    

ล่าสุดชาวบ้านสนใจปลูกต้นกระท่อมกันอย่างกว้างขวางทำให้ต้นกล้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นละ 100 บาท ขยับขึ้นเป็น 200-300 บาทต่อต้น แต่ก็ยังไม่มีของ
    

“ตอนนี้มีบางคนที่มีสวนยางพาราประมาณ 10 ไร่ ได้โค่นต้นยางพาราเพื่อมาปลูกพืชกระท่อมแทน เพราะเชื่อว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะหากมีการส่งออกได้ พืชกระท่อมก็เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคต”
     

สำหรับสถานการณ์ราคาการจำหน่ายใบกระท่อมในพื้นที่ในขณะนี้ พบว่าตอนนี้มีคนเข้ามากว้านซื้อใบกระท่อมในพื้นที่โดยให้ราคาถึงกิโลกรัมละ 300-400 บาท

บริษัท กระท่อมเพื่อสุขภาพ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 22 มิ.ย. 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับ ซื้อผลผลิตใบกระท่อม เพื่อนำ มาสกัด แปรรูป เพื่อการวิจัยทางการแพทย์ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากพืชและสารสกัดจากพืชกระท่อม โดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
    

จากนี้ด้านการวิจัยการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมนั้น ผศ.สมชาย ศรีวิริยะจันทร์ หัวหน้าสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (เภสัช วิทยา) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวว่า จะทำให้งานวิจัยทำได้สะดวกขึ้น และทำได้หลายแง่มุมครบวงจร
    

สำหรับงานวิจัยที่ทำอยู่ขณะนี้ตั้งใจจะทำในเชิงทางการแพทย์ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็คือ การนำมาใช้ ลดอาการถอนของสารเสพติด ซึ่งปัจจุบันคนไข้ที่ติดสารเสพติดในกลุ่มโอปิออยด์(Opioids) กลุ่มฝิ่น เฮโรอีน มอร์ฟีน โรงพยาบาลจะใช้สาร “เมทาโดน-Methadone” ในการบำบัดรักษา ซึ่งต้องนำเข้าทั้งหมด
    ทำให้มีแนวคิดว่าเราน่าจะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมา เพื่อให้เป็นโอกาสสำหรับที่จะไปทดแทน “เมทาโดน” ได้ในอนาคต แต่ว่าก็คงไม่ใช่ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ยังต้องทดสอบวิจัยและสุดท้ายต้องไปขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
    ผศ.สมชาย กล่าวต่อว่าส่วนในแง่เศรษฐกิจถ้าเปิดเสรีในการปลูก เกษตรกรก็จะมีทางเลือกในการปลูกพืชเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ชนิด ซึ่งจะรองรับการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้วัตถุดิบใบกระท่อม จะมีโรงงานเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งจะเป็นโรงงานสกัดพืชกระท่อมที่จะไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้เกษตรกรหรือชาวบ้านที่ปลูกอยู่แล้วจะมีรายได้เข้ามาในครอบครัว ส่วนการส่งออกนั้นก็ยังต้องไปรอดูรายละเอียดข้อกฎหมายซึ่งจะต้องมีการขออนุญาตการส่งออกต่อไป 

สมชาย สามารถ/รายงาน

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,710 วันที่ 2-4 กันยายน พ.ศ.2564