ลดกระหน่ำต่ำกว่าเดิม45ล้าน ประมูลรังนกอีแอ่นพัทลุงขั้นต่ำแค่360ล้าน
ประมูลรังนกอีแอ่นพัทลุงยังไม่สำเร็จ คณะกรรมการฯประกาศครั้งที่ 9 กำหนดราคาประมูลขั้นต่ำเหลือ 360 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางรอบที่แล้วที่อยู่ที่ 405 ล้านบาท ถึง 45 ล้านบาท หวังจูงใจเอกชนเข้าร่วมเสนอราคา หลังประกาศมา 8 ครั้งยังไม่มีผู้สนใจต้องลดราคากลางลงเป็นลำดับ
นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เปิดเผย ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า หลังจากมีการประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประมูลรังนกอีแอ่นพัทลุง ครั้งที่ 8 ซึ่งกำหนดราคากลางไว้ที่ 405 ล้านบาท นัดยื่นซองประกวดราคา 4 ส.ค.2564 แล้ว ยังไม่มีผู้สนใจเข้ายื่นซอง
ดังนั้น ในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้ว่าฯเป็นประธาน และคณะกรรมการกำหนดราคากลางที่มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พัทลุง เป็นประธานฯ ได้ประชุมร่วมกัน เพื่อกำหนดราคากลางประมูลสัมปาทานรังนกจังหวัดพัทลุง เพื่อจะได้ออกประกาศครั้งที่ 9 โดยเร็ว
ทั้งนี้ ที่ประชุมสรุปราคาขั้นต่ำที่ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอราคาไม่ต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่ 360 ล้านบาท ส่วนเงื่อนไขอื่นก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เช่น หลักประกันซอง 10 ล้านบาท วางเงินมัดจำในวันลงนามในสัญญา 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาที่เสนอ ระยะเวลาสัมปทาน 5 ปี สามารถจัดเก็บรังนกได้ทั้งหมดจำนวน 15 ครั้ง
“ระยะเวลาในการประกาศตั้งแต่วันที่ 5-11 สิงหาคม 2564 และวันที่ 13 กำหนดยื่นซองเสนอราคาเวลา 09.00-11.00 น.ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง”
พร้อมกันนี้ได้ส่งใบเสนอนราคาไปให้กับบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจรังนกทั่วประเทศ จำนวน 15-16 บริษัท เหมือนเดิม
นายกู้เกียรติกล่าวอีกว่า การกำหนดราคาขั้นต่ำ หรือราคากลาง ที่ลดลงมาเหลือ 360 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางเมื่อครั้งการประมูลเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 405 ล้านบาทนั้น มาจากหลายปัจจัย
ประการแรก เรามีค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปทำการดูแลเกาะรังนกปัจจุบัน ในช่วงที่ยังไม่มีผู้สัมปทานรายใหม่ นับแต่สัญญาสัมปทานเดิมสิ้นสุดแล้วเมื่อ 14 มิ.ย.2564 ถึงวันละ 57,000 บาท หรือ 20 วัน 1 ล้านบาท
ประการที่สอง พบว่าขณะนี้มีคนแอบเข้าไปขโมยรังนกเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ก็ตาม ซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอยู่ ฉะนั้นแม้จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าแต่ก็ยังมีคนแอบเข้าไปขโมยได้อยู่
และประการสุดท้ายก็คือ จากที่เปิดเประมูลจากจำนวน 8 ครั้ง โดยราคาครั้งสุดท้ายที่ 405 ล้านบาทก็ยังไม่มีผู้สนใจ คณะกรรมการฯจึงคิดว่าราคาที่เหมาะสมน่าจะไม่น้อยกว่า 360 ล้านบาท
“เมื่อปี 2559 ราคาราคากลางอยู่ที่ 405 ล้านบาท ตกแล้วปีประมาณ 81 ล้านบาท ครั้งนี้เราคิดว่าเราน่าจะรับได้ที่ราคา 72 ล้านบาทต่อปี คูณด้วย 5 ปีก็คือ ราคา 360 ล้านบาท”
ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ยังกล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก 3 ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ต้องเร่งการประมูลให้เกิดขึ้นโดยเร็ว นั่นก็คือเรื่องแศรษฐกิจ เรื่องโควิด-19 และค่าใช้จ่ายที่จะต้องเฝ้ารังนกอย่างต่อเนื่อง ที่มีแต่จำเพิ่มขึ้น ๆ ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในการประกาศครั้งแรก เพื่อประกวดราคาหาผู้รับสัมปทานรอบใหม่ 5 ปี (15 มิ.ย.2564-14 มิ.ย.2569) กำหนดราคากลางที่ 500 ล้านบาท สูงกว่ารอบเดิมที่ประมูลได้ที่ 405 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล ต้องประกาศใหม่และลดราคากลางลงเป็นลำดับ จนครั้งหน้ามีราคากลางต่ำกว่ารอบที่ผ่านมาดังกล่าว