ผู้ว่าฯอุดรธานีดำเนินคดีผู้ติดเชื้อไม่ยอมกักตัวแพร่"คลัสเตอร์วัดป่า"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จังหวัดอุดรธานี ยังมีจำนวนค่อนข้างมาก ล่าสุด นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  สั่งการให้ดำเนินคดีกับผู้ป่วยเพศชายรายหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ  ไม่ปฏิบัติตามมาตรการจังหวัด ไม่มีการกักตัว 14 วัน  

แล้วยังเดินไปสถานที่ต่าง ๆ จนไปแพร่เชื้อโควิค-19 ในวัดป่ากกสะทอน ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาที่ผ่านมา ทำให้พระ-เณรติดเชื้อโควิค-19 ไป 8 รูป และญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมอีก 4 คน  
    

สถานการณ์การแพร่รบาดและการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ของ จ.อุดรธานีในขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มากกว่าจำนวนผู้ป่วยรักษาหาย  ซึ่งพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มากกว่า 80 %  เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงควบคุมสูงสุด  เพื่อกลับมารักษาตัวที่บ้านตามภูมิลำเนา     ตามโครงการไทอุดรไม่ทิ้งกัน รับลูกหลานไทอุดรกลับบ้าน สำหรับผู้ต้องการเจะเดินทางมากลับ ให้ติดต่อแจ้งอำเภอภูมิลำเนาของตัวเอง เพื่อนัดหมายและเตรียมความพร้อม ทั้งผู้ที่ติดเชื้อต้องเตรียมเตียงรองรับ 
    

ด้านศบค.จังหวัดได้ใช้มาตรการเข้มข้น    เพื่อรองรับสถานการณ์ให้อยู่ในความควบคุม  ด้วยการเตรียมพื้นที่สร้าง รพ.สนาม จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งการจัดหาวัคซีนทางเลือกโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  เช่น  อบจ.อุดรธานี ใช้เงินงบประมาณ 17 ล้านบาทเศษ เทศบาลนครอุดรธานี 63,9 ล้านบาท สั่งจองซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม ผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  ล่าสุดมีกระแสว่าเทศบาลนครอุดรฯได้รับจัดสรรล็อตนี้ 11,200 โดส หรือ 5,600 คน
    

ส่วน รพ.สนามที่จะสร้างใหม่อีกแห่งหนึ่ง และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการศูนย์การค้า168 แพลตินั่ม ริมถนนสายอุดร-หนองบัวลำภู  ซึ่งมีบริเวณกว้างชวาง มีอาคาร ลานจอดรถ มีความพร้อมในด้านต่างๆ  สามารถจัดทำเป็น รพ.สนามได้อีกหลายร้อยเตียง ซึ่งจะสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ในสัปดาห์หน้า 
                 

พญ.สุรีรัตน์ วัชระสุวรรณเสรี อายุรศาสตร์ โรคติดเชื้อ รพ.อุดรธานี กล่าวว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวในรพ.อุดรธานี 291 คน อยู่ในศูนย์โอบอุ้ม "ศูนย์แคร์" อาคารที่พักนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  524 คน อยู่ในศูนย์มรกต อาคารคลังสินค้านิคมอุตสาหกรรม จังหวัดอุดรธานี  35 คน เป็นผู้ป่วยหนัก 34 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 12 คน ใช้เครื่องออกซิเจนแรงดังสูง 22 คน