กรมทางหลวงชนบท เร่งสร้างสะพานข้ามลำชีเชื่อมสุรินทร์-บุรีรัมย์

16 ก.ค. 2564 | 17:23 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ค. 2564 | 00:26 น.

กรมทางหลวงชนบท เร่งก่อสร้างสะพานข้ามลำชี เชื่อมจังหวัดสุรินทร์- จังหวัดบุรีรัมย์ ร่นระยะทาง 21 กิโลเมตร บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน คาดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2564นี้

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามลำชี ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย

 

ส่งเสริมการคมนาคมขนส่งให้ขยายตัวอย่างมีระบบ เชื่อมโยงระหว่าง อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านได้ทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

                                      

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสว่าง ได้ขอรับการสนับสนุนโครงการก่อสร้างสะพานข้ามลำชี ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเชื่อมระหว่างบ้านโคกเพชร ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ กับบ้านหัวช้าง ตำบลชุมแสง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นการทดแทนสะพานไม้เดิมที่พังเสียหายไม่สามารถสัญจรผ่านได้

ปฐม เฉลยวาเรศ

ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องใช้สะพานข้างเคียงที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกและเสียเวลาในการเดินทาง ทช.จึงได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานดังกล่าว

กรมทางหลวงชนบท เร่งสร้างสะพานข้ามลำชีเชื่อมสุรินทร์-บุรีรัมย์

โดยก่อสร้างเป็นผิวจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 290 เมตร ผิวจราจรกว้าง 9 เมตร พร้อมก่อสร้างถนนแอสฟัทล์ติกคอนกรีตต่อเชื่อมทั้งสองด้านผิวจราจรกว้าง 7 เมตร มีทางเท้า ติดตั้งป้ายจราจร ตีเส้นผิวจราจร วางท่อ และปลูกหญ้า

                                                      

ปัจจุบันการก่อสร้างสะพานฯ มีความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 63 คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 นี้ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่

กรมทางหลวงชนบท เร่งสร้างสะพานข้ามลำชีเชื่อมสุรินทร์-บุรีรัมย์

 

ลดระยะเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและขนส่งพืชผลทางการเกษตร เนื่องจากสะพานดังกล่าวสามารถร่นระยะทางได้ประมาณ 21 กิโลเมตร

 

นอกจากนี้ ทช.ยังได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนก่อสร้างและเปิดโอกาสให้ภาคประชาชน ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในโครงการก่อสร้างสะพานฯ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด