บ้านปู เพาเวอร์ทุ่มเงิน 2.5 พันล้านเข้าซื้อโรงไฟฟ้านาโกโซกำลังการผลิต 73 เมกะวัตต์

02 เม.ย. 2564 | 10:20 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2564 | 17:24 น.

บ้านปู เพาเวอร์ทุ่มเงิน 2.5 พันล้านบาทเข้าซื้อโรงไฟฟ้านาโกโซกำลังการผลิต 73 เมกะวัตต์ ขยายพอร์ตพลังงานไฟฟ้าอย่างสมดุล

รายงานข่าวระบุว่า บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้านาโกโซ (Nakoso IGCC) ณ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 543 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีผสมผสานในการแปลงสถานะถ่านหินให้กลายเป็นก๊าซเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า (Integrated Gasification Combined Cycle: IGCC) ร่วมกับบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพาเวอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งบ้านปู เพาเวอร์ได้ลงทุนผ่านบริษัท Nakoso IGCC Management Co., Ltd (NIMCO) ในสัดส่วน 33.5% ส่งผลให้บ้านปู เพาเวอร์มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 13.4% ในโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC และมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 73 เมกะวัตต์

              นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าซื้อโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC นับเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่ความสำเร็จของการขยายพอร์ตพลังงานไฟฟ้าอย่างสมดุล เราได้บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพมาอย่างยาวนานเป็นผู้ร่วมทุน ที่สำคัญ

สำหรับการลงทุนครั้งนี้นับว่ามีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว รวมถึงมีสัญญาจัดหาเชื้อเพลิงระยะยาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังได้นำจุดแข็งของแต่ละพันธมิตรมาใช้ในการบริหารโครงการตามโครงสร้างเพื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่อย่างชัดเจน 

นอกจากนี้ยังสอดรับกับยุทธศาสตร์ของบ้านปู เพาเวอร์ที่มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการที่ใกล้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Brownfield) ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที เน้นการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) ในตลาดที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าให้เติบโตตามเป้าหมายอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

              ทั้งนี้  โรงไฟฟ้า Nakoso IGCC ถือเป็นโรงไฟฟ้า IGCC แห่งแรกที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Scale) ที่ใหญ่ที่สุด ณ ปัจจุบัน ภายใต้การร่วมทุนของ 5 บริษัท (Joint Venture Partners) โดยมีบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพาเวอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้พัฒนาหลัก โดยใช้เทคโนโลยี IGCC ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า HELE เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการแปลงสถานะถ่านหินให้เป็นก๊าซ (Gasification) กับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซเข้าด้วยกัน

ทำให้โรงไฟฟ้า Nakoso IGCC มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนตันของถ่านหินที่ใช้เท่ากัน ตลอดจนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นโรงไฟฟ้าที่ผ่านการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนามานานว่า 30 ปี นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า Nakoso IGCC จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งของประเทศญี่ปุ่นตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาว และมีสัญญาการจัดหาเชื้อเพลิงระยะยาวเช่นกัน 

บริษัทฯ คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าดังกล่าวภายในเดือนเมษายน 2564 และจะรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2/2564 โดยบ้านปู เพาเวอร์ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปในประเทศที่กลุ่มบ้านปูดำเนินธุรกิจอยู่ เช่น สหรัฐอเมริกา และในประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพ

              ปัจจุบันบ้านปู เพาเวอร์ฯ มีโรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 31 แห่ง กำลังการผลิตรวม 2,929 เมกะวัตต์  โดยเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ รวมถึงโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟจำนวน 26 แห่ง กำลังการผลิต 2,750 เมกะวัตต์  และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 5 แห่ง กำลังการผลิต 179 เมกะวัตต์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :