3 ก.ค. ตั้งไข่คณะทำงานศึกษาผลิตน้ำจืดจากทะเลเติมอีอีซี

วันที่ 29 มิถุนายน 2563 ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมข้อมูลสนับสนุนการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 2/2563 พร้อมด้วย นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการ สทนช. ผู้อำนวยการกลุ่ม/กอง และเจ้าหน้าที่ สทนช. ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมทรัพยากรน้ำบาดาล การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นต้น เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมน้ำปิง ชั้น 4 อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาการเตรียมข้อมูลในประเด็นการทบทวนเป้าหมายขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ทั้ง 6 ด้าน และสามารถขับเคลื่อนได้ภายในปี พ.ศ. 2570 ประกอบด้วย 1) โครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาหรือรองรับการพัฒนาในพื้นที่ Area Based หรือพื้นที่สำคัญอื่น ๆ ตามนโยบายรัฐบาล 2) โครงการพิเศษตามนโยบายต่าง ๆ 3) โครงการขนาดใหญ่ รวมถึงประเด็นการปรับปรุงเร่งรัดแผนงานก่อสร้าง 14 โครงการสำคัญ ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ปี 2563-2580) นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาข้อมูลการแต่งตั้งคณะทำงานทางเทคนิคการพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับสนับสนุนการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 2/2563 ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยการประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 นี้

อนึ่ง  เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานทางเทคนิคการพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญภายใต้แผนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ปี 2563 - 2580) บรรลุวัตถุประสงค์ในการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 2.2 (4) ของคำสั่งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติที่ 5/2562 ลงวันที่ 6 กันยายน 2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ จึงแต่งตั้งคณะทำงานทางเทคนิคการพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

องค์ประกอบ

(1) รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ            ประธานคณะทำงานที่ได้รับมอบหมาย

(2) รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ รองประธานคณะทำงานภาคตะวันออก ที่ได้รับมอบหมาย

ทั้งนี้ส่วนคณะทำงาน ประกอบด้วย

(3) ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ    

(4) ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

(5) ผู้แทนกรมชลประทาน               

(6) ผู้แทนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล    

(7) ผู้แทนการประปาส่วนภูมิภาค      

(8) ผู้แทนการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

(9) ผู้แทนบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)

(10) ผู้แทนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

(11) นายวศิน ยุวนะเตมีย์

(12) นางสาวชลิดา คล้ายโสม

(13) นางสาวอักษรา พฤทธิวิทยา

(14) ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการลุ่มน้ำ3 กองบริหารจัดการลุ่มน้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

(15) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์เศรษฐกิจโครงการพัฒนาแหล่งน้ำศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีทรัพยากรน้ำ

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

(16) ผู้แทนศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

(17) ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์โครงการและงบประมาณสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และเลขานุการร่วม

(18) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และเลขานุการร่วม

(19) ผู้อำนวยการกลุ่มติดตามและประเมินผลโครงการ กองวิเคราะห์โครงการและงบประมาณ และผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

(20) ผู้แทนสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และผู้ช่วยเลขานุการ

 

หน้าที่และอำนาจ

(1) พิจารณา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สัดส่วนการใช้น้ำ การกำหนดราคาค่าน้ำ เพื่อกำหนดประเภทของเทคโนโลยี พื้นที่นำร่อง และปริมาณการผลิตน้ำต่อวัน ที่เหมาะสมของโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

(2) เชิญผู้แทนส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง หรือให้ข้อมูลต่อคณะทำงานฯ ได้

(3) ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ หรือประธานมอบหมาย