นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” นำทีมคณะรัฐมนตรี แถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน หลังรับไม้ต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาบริหารประทศ ระบุผลงานที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ตามพรีเซ็นเตชั่นที่นำเสนอ เรื่องเด่น ๆ ได้แก่ การแจกเงิน 10,000 บาท, การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยนํ้าท่วมภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคใต้, การช่วยเหลือเยียวยาอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน
ต่อมาคือ 30 บาทรักษาทุกที, สมรสเท่าเทียม, ดึงบริษัทยักษใหญ่โลกลงทุนดาต้า เซ็นเตอร์ในไทย เช่น กูเกิล, ร่วมประชุม APEC เปรู และ การมอบบัตรประชาชนแก่กลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น ซึ่ง นายกฯแพทองธาร ระบุช่วง 90 วัน เป็นช่วงการปรับตัว และประสานการทำงานกับคณะรัฐมนตรี เพื่อตอบโจทย์ประชาชนมีชีวิตที่ดีได้จริง
สำหรับในปี 2568 นายกฯ แพทองธาร ประกาศเสียงดังฟังชัด จะเป็นปีแห่งโอกาสที่จับต้องได้ โดยรัฐบาลจะสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรม ผ่านนโยบายที่กินได้จริง โดยจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การแก้ปัญหานํ้าท่วม-นํ้าแล้งอย่างจริงจังและได้ผล การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ควบคุมการเผาไร่ ไม่รับซื้อสินค้าจากทั้งในและนอกประเทศที่มีการเผาไร่พืชเกษตร, การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจะทำแพลตฟอร์มให้ประชาชนแจ้งเบาะแสส่งตรงถึงนายกฯ
นอกจากนี้ จะทลายทุนผูกขาดภาคเอกชน หรือ รัฐวิสาหกิจ ที่เพิ่มต้นทุนชีวิต ทำให้ประชาชนจนลง ยกกรณีข้าว จะปลดล็อกให้เกษตรกรสามารถส่งออกข้าวได้เอง การดูแลค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ในปี 2568 ที่จะต้องลดลง
การผลักดันสุราชุมชน เปิดพื้นที่ให้ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ หรือ เอสเอ็มอี ได้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจ การดึงยักษ์ใหญ่ต่างชาติลงทุนธุรกิจแห่งอนาคต ผลักดันไทยเป็น AI Hub ของภูมิภาค เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน
ส่วนนโยบายที่โดนใจคนหาเช้ากินคํ่า นายกรัฐมนตรียืนยันเดินหน้าแจกเงิน 10,000 บาทต่อ จากรอบแรกแจกเงินหรือเติมเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไปแล้วกว่า 14 ล้านคน คาดจะทำให้จีดีพีหรือเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปีนี้ จะโตเกิน 3%
ส่วนเฟสที่ 2 กลุ่มผู้สูงอายุอีก 4 ล้านราย จะได้รับเงินหมื่นไม่เกินตรุษจีนที่จะถึงนี้ในรูปเงินสด และ ในเฟสที่ 3 ประชาชนทั่วไปจะได้รับเงินรูปแบบ ดิจิทัล วอลเล็ต มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อความช่วยเหลือจากรัฐบาล ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วผ่านดิจิทัล วอลเล็ตในโอกาสต่อไป
ส่วนค่าโดยสารรถไฟฟ้าสำหรับคนเมืองกรุง 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าครองชีพ ได้นำร่องไปแล้วในสายสีแดง และ สายสีม่วง ส่วนสีอื่น ๆ จะเกิดขึ้นแน่นอนในปี 2568 รวมถึงรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ทั้ง หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้เอสเอ็มอี ที่ได้ถูกยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ
ตัวอย่างแผนงานและนโยบายหลัก ๆ ข้างต้น นายกฯ แพทองธาร ได้แจกลูกให้กับรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปบูรณาการการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และประกาศทิ้งท้ายว่า ปี 2568 นโยบายต่าง ๆ ต้องจับต้องได้ และจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้หากฟังตามที่นายกรัฐมนตรีแถลง และมุ่งเป้าไปยังนโยบายที่กินได้ และเอาใจประชาชนเป็นหลักแล้ว ส่วนใหญ่ยังเป็นแผนระยะสั้น ที่ต้องใช้เงินในการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก ไม่มีเป้าหมายว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าให้ขยายตัวได้เท่าไร
รัฐบาลจะมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในภาพใหญ่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันประเทศระยะยาวอย่างไร มีศักยภาพพอที่จะขับเคลื่อนประเทศให้แข่งขันได้ในเวทีโลกมากขึ้นหรือไม่ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งจากในและต่างประเทศ ที่มีอยู่มากมาย และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วยากคาดเดา
อย่างไรก็ดี เสียงจากเอกชนส่วนใหญ่ให้คะแนนผลงาน 90 วันรัฐบาลไม่เต็มร้อย แต่ยังพร้อมให้โอกาสสำหรับปีหน้าในการทำงานร่วมกัน
หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,053 วันที่ 15 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567