“เพื่อไทย-ส.ว.” ดับฝัน “พิธา-ก้าวไกล”

*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,901 ระหว่างวันที่ 2 – 5 ก.ค. 2566 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย

*** ดูสถานการณ์การเมือง ณ เวลานี้แล้ว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยากลำบากเหลือเกินที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่ง “นายกฯ คนที่ 30” ของประเทศไทย โดยมี “รัฐบาลก้าวไกล” บริหารประเทศ ต้องยอมรับความจริงว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับที่ 2 มีอำนาจต่อรองสูงมาก แม้ปากจะบอกว่าสนับสนุนรัฐบาลก้าวไกล โดยมี พิธา เป็นนายกฯ แต่กับเงื่อนไขที่เพื่อไทย ยื่นเพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนรัฐบาลก้าวไกล มันยากสำหรับก้าวไกลที่จะตัดสินใจ 

เงื่อนไขที่ว่าก็คือ สูตร 14+1 คือ ก้าวไกล ได้เก้าอี้รัฐมนตรี 14 ที่นั่ง และ นายกรัฐมนตรี 1 ที่นั่ง ส่วนเพื่อไทย ได้เก้าอี้รัฐมนตรี 14 ที่นั่ง และ 1 เก้าอี้ประธานสภาฯ เมื่อพรรคเพื่อไทยยืนยันเงื่อนไขนี้ เมื่อบ่ายวันที่ 27 มิ.ย. 2566 ทำให้กำหนดการประชุมระหว่าง เพื่อไทย และ ก้าวไกล ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 28 มิ.ย. ต้องมีอันยกเลิกแบบกระทันหันในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา

*** เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ที่เพื่อไทยยืนยันมานั้น เสมือนบีบบังคับให้ก้าวไกล ต้องยอมรับข้อเสนอแบบปฏิเสธไม่ได้สถานเดียว เพราะ “รัฐบาลก้าวไกล” ที่ประกอบด้วย 8 พรรค 312 เสียง หากขาดเพื่อไทย ที่มี 141 เสียง จะเหลือเพียง 171 เสียง ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ครั้นจะไม่เอาเพื่อไทยร่วมรัฐบาล แล้วจะไปหาเสียง ส.ส.เพิ่มมาจากไหน เพราะ ก้าวไกล และ ด้อมส้ม ลั่นดาดปิดประตูตัวเองไว้เสียแล้ว จากปรากฏการณ์ “มีกรณ์ ไม่มีกู” ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องการอะไร “ต้องได้” ถ้าไม่ได้ รัฐบาลก้าวไกลก็ไปไม่รอด นี่คือปัญหาของก้าวไกล อันเกิดจากพรรคร่วมรัฐบาล

*** อีกเงื่อนไขหนึ่งที่เป็น “ปัญหาใหญ่” ของพรรคก้าวไกล ในการดันให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปสู่ดวงดาวเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 คือ “ส.ว.” สมมติรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียง ผนึกกันได้ แต่ก็ต้องไปพึ่งเสียงของ ส.ว. อีก 64 เสียง ถึงจะได้ครบ 376 เสียง เพียงพอที่สนับสนุนให้ พิธา เป็นนายกฯ ได้ ...ดูๆ แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย 

***ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงความเห็นของ ส.ว.ในการโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ ว่า ขณะนี้คลื่นลมสงบ ได้ข้อยุติแล้ว กลุ่ม ส.ว.ที่สนับสนุน นายพิธา น่าจะน้อยกว่า 5 คน ซึ่งสิ่งที่ ส.ว.ส่วนใหญ่ตัดสินใจน่าจะเป็นการปิดสวิตซ์ตนเอง คือ การ “งดออกเสียง” เราประเมินแล้วว่า ส.ว.ได้รับการโปรดเกล้าฯ ถ้าจะไปสนับสนุนนักการเมืองที่ต้องการแตะสถาบัน ก็ไม่ทราบว่าจะตอบสังคม ประชาชนได้อย่างไร ถ้าพูดเรื่องตัวเลข ก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ไม่ได้บ่งชี้ว่า ถ้าพรรคอันดับ 1 ได้ไม่เกินครึ่งของสภา คือ 250 เสียง จะบอกว่าได้เสียงข้างมากเลยก็ไม่ได้ ยกตัวอย่างปี 2562 พรรคเพื่อไทย ก็ได้อันดับ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นั่นคือข้อเท็จจริง ดังนั้นปี 2566 ก็อาจกลับไปคล้ายปี 2562 ก็ได้ ... 2 เงื่อนไข ก้าวไกล ขาด เพื่อไทย ไม่ได้ กับ อุปสรรคจาก ส.ว. ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาว่า “รัฐบาลก้าวไกล” จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้ มาคอยดูกัน...

*** หันไปดู “ข่าวดี” ของประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่ลงตัว เป็นข่าวดีด้านเศรษฐกิจ อันเกิดจากเรื่อง “การท่องเที่ยว” เป็นการเปิดเผยข้อมูลมาจาก กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ วันที่ 26 มิ.ย. 66 พบว่า ไทยมีจำนวน “นักท่องเที่ยวต่างชาติ" สะสมตั้งแต่ วันที่ 2 ม.ค. 66 ทั้งสิ้น 12,464,812 คน ขยายตัว 539%  สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 514,237 ล้านบาท ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ช่วง 19-25 มิ.ย. 66 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 523,794 คน เฉลี่ยวันละ 74,828 คนโดยรอบสัปดาห์ จีน เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากที่สุด 85,065 คน รองลงมา มาเลเซีย 67,082 คน อินเดีย 36,653 คน เกาหลีใต้ 28,857 คน และ เวียดนาม 26,798 คน ตามลำดับ

*** สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นไปตามคาด จากการกลับมาขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่เพิ่มขึ้น 15.34% ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเป็นที่ 1 แซงหน้านักท่องเที่ยวมาเลเซีย ในขณะที่นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น 77.84% โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเดือน มิ.ย. 66 ที่ 2.17 ล้านคน จากสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในทุกตลาดสำคัญโดยเฉพาะการกลับมาของ นักท่องเที่ยวจีน แต่ยังต้องติดตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีน ว่าจะสามารถรักษาระดับการขยายตัวที่เป็นตัวเลขสองหลักหรือไม่ ทำให้คาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยราว 5 แสนคน คิดเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดเอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลก มีความไม่แน่นอนจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และคาดเดาได้ยากขึ้น

*** ปิดท้ายกันที่ ...จังหวัดอุบลราชธานี กําหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวันมหามงคลแห่งการสถาปนาเมือง อุบลราชธานี ครบ 231 ปี 16 กรกฎาคม 2566 “231 ปี อุบลราชธานี ฮุ่งเฮือง เมืองธรรม” โดยจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมเจริญพระพุทธมนต์และสมโภช กิจกรรมทําบุญตักบาตร พระสงฆ์และสามเณร 231 รูป กิจกรรมการจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่าย “อุบลราชธานี จาก อดีต สู่ปัจจุบัน” และกิจกรรมขบวนฟ้อนรํา จํานวน 23,100 คน ณ สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง ตําบลในเมือง อําเภอเมือง อุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่พัฒนาเมืองจนเจริญรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน