แบ่งเขต ส.ส. "ยุบสภา" เลือกตั้งก.ค.65?

***คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับ 3755 ระหว่างวันที่ 6-9 ม.ค.2565  ว.เชิงดอย ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ต่อประเทศชาติเช่นเคย

*** ประกาศแบ่งเขต ส.ส. ในแต่ละจังหวัดจำนวน 77 จังหวัด 400 ที่นั่ง ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และทาง กกต.โดย  กิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต. ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการกกต.ก็ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 1 ก.พ.2565 ถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และ กรุงเทพมหานคร(กทม.) แจ้งให้เตรียมความพร้อมในการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.ไว้ล่วงหน้า

โดยยึดจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ ณ วันที่ 31 ธ.ค.64 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไป เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยหลักเกณฑ์ในการคำนวณจำนวนส.ส.ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 2564 มาตรา 86 โดยจากจำนวนราษฎรทั้งประเทศที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ รวม 66,171,439 คน และกฎหมายกำหนดให้มีส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 คน กกต.คำนวณจำนวนราษฎรเฉลี่ยต่อส.ส. 1 คน อยู่ที่ 165,428.5975 คน 

*** ในการแบ่งจำนวนส.ส.ทั่วประเทศ จังหวัดที่มีส.ส.มากที่สุดยังคงเป็น กทม. 33 คน, ตามมาด้วย นครราชสีมา  16 คน, ส่วนที่มีส.ส. 11 คน มี 3 จังหวัด คือ ขอนแก่น เชียงใหม่  อุบลราชธานี. จังหวัดที่มีส.ส. 10 คนมี 2 จังหวัด คือ ชลบุรี  บุรีรัมย์, จังหวัดที่มีส.ส.9 คนมี 4 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ สงขลา อุดรธานี, จังหวัดที่มีส.ส. 8 คน มี 5 จังหวัด คือ เชียงราย นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ สุรินทร์, จังหวัดที่มีส.ส 7 คน มี 4 จังหวัด คือ ชัยภูมิ ปทุมธานี สกลนคร สุราษฎร์ธานี, ส่วนจังหวัดที่มีส.ส. 6 คน มี 5 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ นครปฐม นครสวรรค์ เพชรบูรณ์  มหาสารคาม 

*** จังหวัดที่มีส.ส. 5 คนมี 7 จังหวัด คือ กาญจนบุรี นราธิวาส พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก ระยอง ราชบุรี  สุพรรณบุรี, จังหวัดที่มีส.ส. 4 คน มี 12 จังหวัด คือ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ตรัง ตาก นครพนม ปัตตานี ลพบุรี ลำปาง เลย สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย, ที่มีส.ส .3 คนมี 19 จังหวัด คือ กระบี่ จันทบุรี ชุมพร น่าน บึงกาฬ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พะเยา พัทลุง พิจิตร เพชรบุรี แพร่ ภูเก็ต ยโสธร ยะลา สระแก้ว หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์, ส่วนที่มีส.ส. 2 คน มี 10 จังหวัด คือ ชัยนาท นครนายก พังงา มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ลำพูน สตูล อ่างทอง อำนาจเจริญ อุทยธานี, จังหวัดที่มีส.ส.1 คนมี 4 จังหวัด คือ ตราด ระนอง สมุทรสงคราม และ สิงห์บุรี

และหากคิดจำนวนส.ส.เป็นรายภาค ตามประกาศกกต.เรื่องบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัด ปี 2560 ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร รวม 26 จังหวัด จะมีส.ส. 139 คน ภาคใต้ 14 จังหวัด มีส.ส. 58 คน ภาคเหนือ 16 จังหวัด มีส.ส. 71 คน และ ภาคอีสาน 20 จังหวัด จะมีส.ส 132 คน

*** การแบ่งจำนวนส.ส.เขตดังกล่าว มีข้อน่าสังเกตว่า ตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 2560 มาตรา 86 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การคํานวณจํานวนส.ส.ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และการแบ่งเขตเลือกตั้งโดยให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งหากสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันอยู่ครบวาระ 4 ปี นับแต่เลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศก่อนหน้านี้

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหลัง 24 มี.ค.2566 ก็จะต้องใช้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ปี 2565 ที่โดยปกติแล้ว สำนักทะเบียนกลางกระทรวงมหาดไทย จะประกาศในช่วงต้นเดือนม.ค.ของปีถัดมา เป็นฐานในการคิดคำนวณจำนวนส.ส.ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี แต่การที่กกต.ใช้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ปี 2564 เป็นฐานในการคิดคำนวณจำนวนส.ส.ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และสั่งให้จังหวัดเตรียมแบ่งเขตเลือกตั้งคู่ขนานไปกับการที่รัฐสภาจะพิจารณากฎหมายลูก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. หากแล้วเสร็จและประกาศให้มีผลใช้บังคับ ก็สามารถจัดเลือกตั้งได้ทันที ตรงนี้นี่แหละทำให้คิดวิเคราะห์ไปได้ว่า อาจเป็นสัญญาณว่าจะมีการ “ยุบสภา” และมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นภายในปี 2565 นี้ก็ได้

*** หันไปดูช่วงเวลาที่อาจจะเป็นจุดตายให้มีการ “ยุบสภา” เกิดขึ้นก่อนครบวาระ น่าจะเป็นก่อนการยื่น “ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ” ของฝ่ายค้าน โดยสภาสมัยปัจจุบันจะปิดประชุมวันที่ 28 ก.พ.นี้ และไป “เปิด” สภาสมัยสามัญอีกที 22 พ.ค.-18 ก.ย. 2565 ซึ่งเมื่อเปิดสภาแล้ว “ฝ่ายค้าน” คงจะเร่งยื่น “ญัตติซักฟอก” รัฐบาลแน่นอน อย่างน้อย ๆ ก็เป็นการบีบให้ “นายกฯ” ยุบสภา ตามที่ “นายใหญ่ดูไบ” ออกมาเสนอแนะให้เร่งยุบสภา ...เพราะหาก “นายกฯ ลุงตู่” เดินเข้าสู่แดนประหารในศึกซักฟอก ก็สุ่มเสี่ยงที่จะ “แพ้โหวต” กลางสภาได้ ด้วยเหตุเสียงรัฐบาล “ปริ่มน้ำ” ดังนั้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่ “นายกฯ” อาจจะยุบสภาก่อนเปิดสภาวันที่ 22 พ.ค.2565 เพราะหากไม่ยุบก่อน เดินหน้าไปสู้ศึกซักฟอก เมื่อแพ้โหวตอนาคตทางการเมืองก็ “ดับวูบ” ทันที และต้องโหวตหานายกฯ คนใหม่กันในสภา 

*** สมมติหาก “นายกฯ” ยุบสภาก่อน 22 พ.ค.2565 แม้กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับยังไม่เสร็จ ก็สามารถออกเป็น “พระราชกำหนด” เพื่อใช้ในการเลือกตั้งได้ ขณะที่ช่วงเวลาที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปใหม่ หลัง “ยุบสภา” แล้ว ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ดังนั้น ช่วงเวลาของการเลือกตั้ง น่าจะเป็นประมาณเดือน ก.ค.2565 นี้ สถานการณ์การเมืองจะเป็นไปอย่างที่วิเคราะห์มานี้หรือไม่ มาคอยดูกัน...

*** จากเรื่องการเมืองหันไปดูเรื่องทางสังคม ...เรียกว่าเดินสายทำบุญกันต่อเนื่องแบบข้ามปี คราวนี้ “เสี่ยสมศักดิ์  จิตติพลังศรี” กรรมการผู้จัดการบริษัท ซัยโจ เดนกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และครอบครัวถือฤกษ์ดี เช้าวันที่ 2 เดือน 2 ปี 2022 ถวายปัจจัย 1 ล้านบาท สร้างหลังคาวิหารขนาดใหญ่ครูบาอนันต์ วัดดอนจั่น พร้อมถวายภัตตาหารเพลเป็นที่เรียบร้อย เนื่องในเทศกาลปีใหม่จีนนี้ ขอให้บุญกุศลที่ได้ถวายหลังคาวิหาร เป็นสมบัติพุทธศาสนาจงเป็นอานิสงส์คุ้มครองท่านและครอบครัว ให้ปลอดภัยจากโรคภัยทั้งปวงสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวเจริญรุ่งเรืองสมปรารถนาเทอญ...