บิ๊ก ‘24CS’ พัฒนานวัตกรรม ESG เคลื่อนธุรกิจสู่สเตทใหม่ ดันรายได้โต 100%

03 ธ.ค. 2565 | 07:54 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ธ.ค. 2565 | 21:43 น.

อุตสาหกรรมระบบปรับอากาศในอาคาร ที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาท กำลังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่โควิดคลี่คลาย ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างเร่งเครื่องลุยโปรเจ็กต์ใหม่ พร้อมๆ กับการรีโนเวทระบบเดิมในอาคารเพื่อเปิดรับตลาดใหม่

“ยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย (24CS) บอกเลยว่า นี่คือโอกาสทางธุรกิจของ 24CS
    

“ยศวีย์” เล่าว่า ขณะนี้ 24CS กำลังเข้าสู่สเตทใหม่ของการทำธุรกิจ โดยนำเมกะเทรนด์ด้าน ESG (Environment, Social, และ Governance) ที่มีนวัตกรรมมาเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทำ Pre-Launch นวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงานไปแล้วกับ EGAT หรือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้กว่า 50%

บิ๊ก ‘24CS’ พัฒนานวัตกรรม ESG เคลื่อนธุรกิจสู่สเตทใหม่ ดันรายได้โต 100%

“ไทยเราไม่มีค่อยมีนวัตกรรมของตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นการนำมาจากต่างประเทศ วันนี้เราปิดจุดอ่อนตัวเอง ด้วยการสร้างนวัตกรรม ค้นคิดนวัตกรรมของตัวเอง เพื่อผลักดันให้ 24CS โตขึ้นด้วยนวัตกรรมที่เราสร้างขึ้น ด้วยการร่วมคิดค้นกับทีมของ TROX จากประเทศเยอรมัน” 
    

ซีอีโอหนุ่ม 24CS เล่าว่า เขาเริ่มต้นธุรกิจจากการเทรดดิ้ง นำเข้าอุปกรณ์ประเภทปรับอากาศและระบายอากาศ จาก TROX ประเทศเยอรมัน ตั้งแต่ 12 ปีก่อน ระหว่างนั้นได้ทำการศึกษาและเรียนรู้โนว์ฮาวด์ของคู่พาร์ทเนอร์ พร้อมๆ กับการสร้างทีมวิศวกร และพยายามพัฒนาระบบต่างๆ จนขณะนี้ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อตุลาคม 2565 เขาก็วางแผนขยายการลงทุนต่อ พร้อมผลักดัน 24CS สู่การทำตลาดคอนสตรัคชั่น 

บิ๊ก ‘24CS’ พัฒนานวัตกรรม ESG เคลื่อนธุรกิจสู่สเตทใหม่ ดันรายได้โต 100%

“เราต้องการให้ 24CS ก้าวจากสเตทแรก จากเทรดดิ้งคอมปานี เข้าสู่คอนสตรัคชั่น คัมปานี เพื่อให้คนในองค์กรเกิดเลิร์นนิ่งเคิร์ฟ เรามีการ change องค์กร มีธุรกิจที่เพิ่มเข้ามา โดยใช้นวัตกรรมใส่เข้าไป เราใช้โนว์ฮาวด์และนวัตกรรมเข้ามาจับ ทำให้สามารถลดต้นทุน ในการก่อสร้าง ทำให้เกิดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น” 
    

“ยศวีย์” บอกว่า องค์กรของเขามีการขับเคลื่อนตลอดเวลา ด้วยทีมงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ พร้อมเรียนรู้และเดินหน้า ด้วย Mindset ที่เขาใช้ในการหล่อหลอมฃทีมงานคือ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้...nothing is impossible สำหรับบริษัท 24CS เพราะฉะนั้น ในองค์กรจะมีการระดมสมองกันตลอดเวลา มีกรุ๊ปมิตติ้งของน้องๆ รุ่นใหม่ มีการแชร์ไอเดีย โดยมีผู้บริหารเป็นคีย์หลักในการคัดท้ายให้ทุกอย่างเดินไปสู่เป้าที่ตั้งไว้ 
    

ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ มองว่า ถึงเวลาแล้วที่องค์กรของเขาต้องปรับตัว เพื่อการเติบโตต่อไปอย่าง
ยั่งยืน การขายอุปกรณ์มันถึงจุดๆ หนึ่งที่ต้องเอานวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง และนั่นคือการเพิ่มมูลค่าเข้าไปในโปรดักส์ จากของที่วันหนึ่งราคาอยู่ 100 บาท แต่เมื่อใส่เทคโนโลยี ใส่นวัตกรรมเข้าไป มูลค่ามันเพิ่มขึ้นมาเป็น 120 -150 บาท ด้วยแนวคิดนี้ ทำให้ 24CS สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง และค่อยๆ ขยายขึ้นอย่างระมัดระวัง
    

จากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกทั้งโรคระบาด และเศรษฐกิจที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ทำให้ 
ยศวีย์” ค่อนข้างระมัดระวัง และ conservative กับลงทุนอะไรใหม่ๆ ที่ต้องศึกษาอย่างละเอียด
รอบคอบ แต่ที่ผ่านมา เขาก็สามารถผลักดันบริษัทให้เติบโตได้กว่า 50-100% และ 9 เดือนแรกปี 2565 สามารถทำรายได้เติบโตกว่า 105% มีรายได้อยู่ที่ 600.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 307.92 ล้านบาท ส่วนกำไรเติบโตกว่า 191% โดยคาดว่าถึงสิ้นปีน่าจะปิดได้ไม่ตํ่ากว่า 800 ล้านบาท ขณะที่ปีหน้า เตรียมเติบโตอีกกว่า 100% จากแบ็คล็อกราว 1,200 ล้านบาท
    

“ยศวีย์”  มองว่า ธุรกิจของเขายังเป็นบูลโอเชี่ยน ที่ยังมีพันธมิตรอีกมากมายที่จะเข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีองค์กรใหญ่หลายๆ องค์กร ที่เข้ามาร่วมพัฒนาโปรเจ็กต์ร่วมกัน เช่น ปตท. เซ็นทรัลพัฒนา การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย EGAT รวมไปถึงพาร์ทเนอร์สตาร์ทอัพ ที่กำลังจะมีโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจเกิดขึ้น 
    

นอกจากนี้ โอกาสในตลาดประเทศ เช่น สิงคโปร์ ที่มีการขยายตัว และมีกฎหมายเกี่ยวกับการรีโนเวทอาคาร ก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ ที่ซีอีโอหนุ่มคนนี้ พร้อมลุยแน่นอน เมื่อโอกาสเปิดและจังหวะเหมาะต่อการลงทุน


หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,840 วันที่ 1 - 3 ธันวาคม พ.ศ. 2565