”นฤมล“ สั่ง Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

13 ม.ค. 2568 | 18:21 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 19:38 น.

“นฤมล” รัฐมนตรีเกษตรฯ สั่ง Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ไปจีน เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน ยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยผักผลไม้ไทย สร้างความมั่นใจตลาดส่งออกไปจีน 1.34 แสนล้านบาท

 

”นฤมล“ สั่ง  Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

 

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2568  โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เข้าร่วม

 

”นฤมล“ สั่ง  Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

"ตามที่ได้ปรากฏในข่าวสาธารณรัฐประชาชนจีนระงับการนำเข้าทุเรียนของไทย ภายหลังตรวจพบการใช้สาร Basic Yellow 2 ในทุเรียนนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว และเป็นนโยบายที่ตนได้เน้นย้ำความสำคัญในการควบคุมมาตรฐานสินค้าผักและผลไม้ จึงได้ประชุมพิจารณาวาระเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผักผลไม้ไทย ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเพิ่มมาตรการตรวจเข้มข้น โดยตรวจทุกตู้ที่มีการส่งออก 100% รวมไปถึงการตรวจสารสารแคดเมียม หนอนทุเรียน และสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไยด้วย หากตรวจพบจะดำเนินการตามบทลงโทษ ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร"

“กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจตามล้งต่าง ๆ แล้ว โดยพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.ชุมพร และนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่จะต้องดำเนินการก่อนเนื่องจากผลผลผลิตทุเรียนกำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ขณะเดียวกัน ในระหว่างการเตรียมความพร้อม ดิฉันอยากให้ความมั่นใจกับพี่น้องเกษตรกรว่า กระทรวงเกษตรฯ พร้อมวางมาตรการใหม่ภายใน 10 วัน และจะดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับคุณภาพและความเชื่อมั่นในทุเรียนไทย อย่างไรก็ตาม ได้ประสานกับกรมการค้าภายในช่วยดูแลเรื่องราคาทุเรียน ขอความร่วมมือผู้รับซื้อทุเรียน ไม่ให้มีการกดราคา”

”นฤมล“ สั่ง  Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยว่า วันที่ 5 – 7 ก.พ.นี้ ตนจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับนายกรัฐมนตรีฯ อย่างเป็นทางการ และจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับทางสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of the. People's Republic China) GACC ถึงการดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในสินค้าผักผลไม้ของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งออกสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เนื่องจากสินค้าผักผลไม้ของไทยที่ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยปี 2567 (ม.ค. –พ.ย.) ไทยส่งออกผลไม้สด 1.817 ล้านตัน มูลค่า 177,131 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ กรมวิชาเกษตร ได้ออกประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง มาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียนผลสดส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ. 2568 โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 10 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1) กรณีที่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ต้องใช้ทั้งชนิดและปริมาณที่ถูกต้อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง หรือตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535

”นฤมล“ สั่ง  Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

หรือข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า 2) กรณีตรวจพบโรงคัดบรรจุใช้สารห้ามใช้หรือมีสารห้ามใช้ไว้ในครอบครอง จะถูกระงับการส่งออกและนำไปสู่การยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชก็ได้ และ 3) กรณีเจ้าหน้าที่สงสัยว่าทุเรียนมีการใช้สารห้ามใช้ ให้มีอำนาจสั่งให้โรงคัดบรรจุนำผลทุเรียนนั้นไปตรวจวิเคราะห์กับห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบรับรองสุขอนามัยพืช

 

”นฤมล“ สั่ง  Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

สำหรับสถิติการส่งออกผลไม้ไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2565 – 2567 พบว่า ปริมาณการส่งออกทุเรียนลดลง ขณะที่ปริมาณการส่งออกลำไยสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา ดังนี้  ปี 2567 ไทยส่งออกผลไม้ไปสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวนรวมทั้งสิ้น 101,884 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณรวม 1,824,815 ตัน มูลค่ารวม 134,954 ล้านบาท โดยมีปริมาณการส่งออกลดลงจากปี 2565 และปี 2566

”นฤมล“ สั่ง  Set Zero สารปนเปื้อนผลไม้ เร่งมาตรการใหม่ใน 10 วัน

โดยเป็นการส่งออกทุเรียน จำนวน 52,960 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณ 824,777 ตัน มูลค่า 88,806 ล้านบาท ในส่วนของการส่งออกลำไย จำนวน 15,102  ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณ 375,327 ตัน มูลค่า 16,018 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรรายงานอีกด้วยว่า ได้เตรียมยื่นขอเปิดตลาดส่งออกลำไยทุกประเภทจาก ไทย ไปฟิลิปปนส์ เพื่อขยายตลาดเพิ่มขึ้น