นายพศิน ลาทูรัส รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์ นารายา (NaRaYa) เปิดเผยว่า NaRaYa x Butterbear Collection เกิดจากความร่วมมือของนารายา กับ “น้องหมีเนย” ภายใต้การออกแบบ ตัดเย็บและการใช้วัสดุ อันเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 35 ปีของนารายา
จนเป็นสินค้าคอลเล็กชันสุดพิเศษ ที่ประกอบด้วยสินค้า Exclusive Set และสินค้าพิเศษอีก 11 ชิ้น ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความร่าเริงสดใส และสีสัน ลวดลายสุดน่ารักของน้องหมีเนยในอริยาบทต่างๆ ที่สวยงามเฉพาะตัว
“NaRaYa x Butterbear Collection ถือเป็นเซอร์ไพรส์ของแบรนด์ ที่ได้รับการตอบรับดีเกินคาด ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มวางจำหน่าย ทั้งการจำหน่ายผ่านทางหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้า Exclusive Set ที่มีลูกค้ามารอซื้อสินค้าตั้งแต่ 2 ทุ่มก่อนวันเปิดขาย และ Sold Out จำนวน 300 ชุด ตั้งแต่วันแรกๆ ของการวางขาย จนมีกระแสเรียกร้องจากแฟนคลับให้เปิดพรีออเดอร์อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์สุดพิเศษที่แบรนด์ไม่เคยเจอมาก่อน ต้องขอบคุณลูกค้าและเหล่ามัมหมีของน้องหมีเนยทุกท่าน ที่ให้การต้อนรับนารายาเป็นอย่างดี” คุณพศิน ลาทูรัส กล่าว
นายพศิน ลาทูรัส กล่าวต่อว่า การจัดงาน "OUR FIRST DATE" #CraftedbyHeart สุดฝีเข็มเพื่อเธอ ในครั้งนี้ เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีแห่งการเดินทางของนารายา (NaRaYa) ที่ได้ส่งต่อคุณภาพและความประณีตของฝีมือคนในชุมชนท้องถิ่นไทยสู่ระดับโลก ซึ่งคอลเล็กชันพิเศษ NaRaYa x Butterbear ที่ร่วมมือกับ Butterbear (น้องหมีเนย) มาสคอตหมีสุดน่ารักสัญชาติไทย เป็นอีกก้าวที่สำคัญของแบรนด์ที่จะช่วยสื่อสารภาพลักษณ์และมอบประสบการณ์ใหม่แก่กลุ่มลูกค้าของแบรนด์นารายา
เพื่อเริ่มขยายตลาดและฐานลูกค้าไปยังลูกค้ารุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายของแบรนด์ได้เพิ่ม 30% รวมทั้งการขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีแฟนคลับของน้องหมีเนย และหนุ่มปอนด์ พลวิชญ์ อยู่แล้วได้เป็นอย่างดี
นอกจาก NaRaYa x Butterbear Collection แล้ว ยังคงแสวงหาโอกาสและความร่วมมือกับสินค้าประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม ในรูปแบบการทำ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยต่อยอดทางธุรกิจ และทำให้นารายากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้อย่างครบครัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย
รวมไปถึงการขยายสาขาและจุดจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมใช้ Digital Marketing เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าของลูกค้า ซึ่งคาดว่าการดำเนินการทั้งหมด จะช่วยกระตุ้นรายได้ของแบรนด์ให้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30%