บีโอไอวิ่งล็อกบิ๊กเทคลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ Google ยันเดินตามแผน

21 พ.ย. 2567 | 06:49 น.

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยโตเกินต้าน เชื่อ “ทรัมป์” มาไม่กระทบบิ๊กเทค ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ คาด 6 เดือนแรกปี 67 มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้าน ด้าน Google ยันเดินหน้าลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์-คลาวด์มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาทต่อ รุดหารือบีโอไอเร่งดำเนินการ

การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฉบับล่าสุด (e-Conomy SEA 2024 Report) ที่จัดทำโดย Google,Temasek และ Bain & Company คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลไทยจะมีมูลค่าสินค้ารวม (Gross Merchandise Value หรือ GMV) 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาทในปี 2567 โดยยังคงมีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บีโอไอวิ่งล็อกบิ๊กเทคลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ Google ยันเดินตามแผน

ทำให้ยักษ์เทคโนโลยีโลก ทั้ง อเมซอน เว็บเซอร์วิส (AWS) กูเกิล และไมโครซอฟท์ ประกาศลงทุนตั้ง Data Center และ Cloud Region โดยรายงาน e-Conomy SEA 2024 Report ระบุว่าครึ่งแรกของปี 2567 การลงทุนเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 2.09 แสนล้านบาท ทำให้ความจุ (Capacity) ของศูนย์ข้อมูลที่วางแผนไว้เพิ่มขึ้น 550% โดยเติบโตมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ระบุว่า ปัจจุบันมีโครงการ Data Center และ Cloud Service ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รวม 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 167,989 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง

บีโอไอวิ่งล็อกบิ๊กเทคลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ Google ยันเดินตามแผน

ต่อข้อกังวลเรื่องการลงทุนของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ในไทยจะได้รับผลกระทบ ภายหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง และจะเข้าทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 20 มกราคม 2568 นั้น

เชื่อ"ทรัมป์"มาไม่กระทบลงทุนไทย

นายนริศ รัตนเยี่ยม อดีตกรรมการบริษัท โปรเอ็น จำกัด (มหาชน) ผู้คว่ำควอดในวงการดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการกลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ของทรัมป์ ไม่มีผลต่อการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ของยักษ์เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา โดยการขยายดาต้าเซ็นเตอร์ ของยักษ์เทคโนโลยีสหรัฐ เป็นไปตามยุทธศาสตร์การขยายการลงทุนตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในแต่ละภูมิภาค เพื่อรองรับการเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัลของแต่ละภูมิภาค โดยในอาเซียนนั้นเดิมการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์จะอยู่ในสิงคโปร์ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านทรัพยากร ทำให้รัฐบาลจำกัดการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ยักษ์เทคโนโลยีเหล่านั้นจึงขยายการลงทุนมาในมาเลเซีย ซึ่งใกล้กับสิงคโปร์ และมีค่าไฟถูก รวมถึงไทยและอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ไทยกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Global Emerging Markets) โดยมีการเข้ามาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในกรุงเทพ อันดับต้นๆของโลก โดยไทยมีความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานมีคุณภาพสูง ทั้งโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เครือข่าย 5G ค่าบริการที่มีราคาถูก ระบบไฟฟ้าที่มีความเสถียร มีศักยภาพด้านพลังงานสะอาด และกฎระเบียบด้านดิจิทัลที่มีมาตรฐานสากล และมีความมั่นคงปลอดภัยและเป็นกลางในเวทีระหว่างประเทศ อีกทั้งทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะศักยภาพในการเป็น Connecting Hub สำหรับกลุ่มประเทศ CLMVT ที่มีประชากรรวมกันกว่า 250 ล้านคน

อีกทั้งตลาดในประเทศขยายตัวสูง ทั้งดีมานด์จากการยกระดับองค์กรไปสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) การกำหนดนโยบาย Cloud First Policy ของรัฐบาล สัดส่วนการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอยู่ในระดับสูง และประชาชนมีทักษะในการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ที่จูงใจ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับภาคธุรกิจ รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เพื่อดึงดูดบุคลากรทักษะสูงเข้าสู่ประเทศ และมีบุคลากรที่มีคุณภาพและมีทักษะด้านดิจิทัล

กูเกิล ย้ำลงทุนตามแผนเดิม

ด้านนางสาวแจ็คกี้ หวาง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท Google ประเทศไทย จำกัด กล่าวยืนยันกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การลงทุน Data Center และ Cloud Region ของ Google ในประเทศไทย ยังเป็นไปตามแผนที่ประกาศไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ  BOI เพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าวอยู่ ส่วนกรณีการเปลี่ยนแปลงการเมืองในสหรัฐอเมริกา โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกรอบนั้น จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในไทยหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะพูด โดยไม่ขอออกความเห็นในเรื่องดังกล่าว

บีโอไอวิ่งล็อกบิ๊กเทคลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ Google ยันเดินตามแผน

 ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา Google ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท (1 พันล้านดอลลาร์) เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทย โดยวางแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในกรุงเทพฯ และชลบุรี ซึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการในการใช้งานคลาวด์ที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก โดยการลงทุนดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานเพิ่มในไทย 14,000 ตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยได้ 1.4 แสนล้านบาท ภายในปี 2572

 นางสาวแจ็คกี้ หวาง กล่าวต่อไปว่า “เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ ตั้งแต่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปจนถึงกลยุทธ์ 4 ปีของรัฐบาล ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นดิจิทัลฮับชั้นนำในภูมิภาคฯ ด้านศูนย์ข้อมูลและ AI พร้อมทั้งส่งเสริมให้บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเข้ามาลงทุนในไทยด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและลดขั้นตอนกระบวนการต่างๆ Google รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนในเส้นทางการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ผ่านแผนการลงทุนล่าสุดของเราที่ได้ประกาศไปเมื่อไม่นานนี้”

 ทั้งนี้ อะเมซอน เว็บเซอร์วิส หรือ AWS ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ AWS Region ในประเทศไทย ที่จะมีชื่อว่า AWS Asia Pacific (Bangkok) วางงบประมาณลงทุนมากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 1.9 แสนล้านบาท) ในระยะเวลา 15 ปี โดยในเฟสแรก ได้ลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แล้ว 3 แห่ง เงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท ส่วน ไมโครซอฟท์ ประกาศลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทย แต่ยังไม่เปิดเผยตัวเลขการลงทุน อย่างไรก็ตามคาดว่ามูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท