อภัยภูเบศรแนะรัฐส่งเสริมวิจัยเครื่องสำอางสมุนไพร

25 ส.ค. 2559 | 14:05 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2559 | 21:41 น.
รายงานข่าวจากมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  เผยว่า ในปัจจุบันผู้คนต่างให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพอนามัย การเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี จึงทำให้ตลาดเครื่องสำอางของไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10 ซึ่งนับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี  ในปี 2558 เครื่องสำอางมีมูลค่าตลาดในประเทศถึง 2.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 1.2 แสนล้านบาท และตลาดส่งออกที่ทำรายได้ให้ประเทศกว่า 9 หมื่นล้านบาท  แต่ในขณะเดียวกันการนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศก็มีแนวโน้มสูงขึ้น  อย่างในปี 2558 มีมูลค่านำเข้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท  ถึงแม้จะมีมูลค่าน้อยกว่าการส่งออก  แต่ก็เป็นตัวเลขที่น่าจับตามอง  เนื่องจากเครื่องสำอางเป็นสินค้าแฟชั่น ความนิยมโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นขึ้นกับกระแสความนิยมในดาราต่างชาติ ดังนั้นการพัฒนาเครื่องสำอางเพื่อให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจำเป็นต้องมีงานวิจัยสนับสนุน  ภาครัฐควรให้การส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเครื่องสำอางจากภูมิปัญญาไทยเพื่อสร้างดุลการค้าด้านบวก

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร  ผู้แทนกรรมการบริหารของมูลนิธิ ฯ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาเครื่องสำอางจากสมุนไพรที่ผ่านมา  เราได้นำภูมิปัญญาสมุนไพรไทยมาใช้เป็นฐานในการพัฒนา  ประกอบกับค้นคว้าการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ที่ช่วยสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทยนั้น ๆ จากการทำงานกว่า 20 ปี  เราค้นพบสิทธิบัตรของสมุนไพรไทยที่ถูกจดโดยต่างชาติแล้วมากกว่า 100 ฉบับ  สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรไทยมีประสิทธิภาพและปลอดภัย  และมีศักยภาพที่สามารถมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ”

ทั้งนี้ผู้สนใจสมุนไพรและความรู้ภูมิปัญญาสามารถเข้าร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2559  อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคาร 6-8