การบินไทย ห้ามผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน มีผล 15 มี.ค.นี้

07 มี.ค. 2568 | 14:28 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มี.ค. 2568 | 14:32 น.
1.5 k

การบินไทย ประกาศไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป

วันนี้(วันที่ 7 มีนาคม 2568) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกประกาศแจ้งผู้โดยสาร ว่า เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ขอแจ้งให้ทราบว่าผู้โดยสารไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หรือชาร์จ พาเวอร์แบงค์ (แบตเตอรี่สำรอง) หรือ Power Bank ตลอดระยะเวลาการเดินทาง 

การบินไทย ห้ามผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน

ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ขอขอบพระคุณในความร่วมมือของท่าน

ทั้งนี้ผู้โดยสารยังสามารถนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องได้ ตามความจุตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย CAAT หรือ กพท.กำหนดไว้

ทำไมสายการบินห้ามผู้โดยสารใช้พาวเวอร์แบงค์ Power Bank บนเครื่องบิน

พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) หรือ แบตเตอรี่สำรอง มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการ เกิดความร้อนสูง (Thermal Runaway) และอาจระเบิดหรือลุกไหม้ได้หากเกิดความเสียหายหรือถูกใช้งานผิดวิธี และพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตราย ได้แก่

  • การเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ

 อุณหภูมิและความดันอากาศที่แตกต่างจากภาคพื้นดิน อาจกระตุ้นให้แบตเตอรี่เกิดปฏิกิริยาความร้อน

  • การชาร์จไฟที่ไม่เสถียร

หากใช้ปลั๊กไฟบนเครื่องบินชาร์จพาวเวอร์แบงก์ อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดความร้อนสูง

  • การเก็บผิดวิธี

การใส่พาวเวอร์แบงก์ไว้ในกระเป๋าที่ถูกกระแทกหรืออัดแน่น หากแบตเตอรี่ถูกกดทับหรือได้รับแรงกระแทก อาจทำให้เกิดการลัดวงจรภายในและเกิดไฟไหม้ได้

ทำไมสายการบินห้ามนำแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank โหลดใต้ท้องเครื่องบิน ต้องนำขึ้นเครื่องบินเท่านั้น

แบตเตอรี่สำรองหรือ Power Bank ไม่สามารถนำไปในรูปแบบสัมภาระลงทะเบียน (Checked Baggage) เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ เนื่องจากในระหว่างการเดินทาง แบตเตอรี่สำรอง ซึ่งมีส่วนประกอบจากลิเธียม (Lithium) อาจเกิดความร้อนสะสมจนก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดได้ ซึ่งหากเกิดเพลิงลุกไหม้ในพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบิน จะทำให้ยากต่อการควบคุมเหตุการณ์ 

ทำไมห้ามนำ Power bank โหลดใต้ท้องเครื่องบิน

ทั้งนี้ หากพกพาแบตเตอรี่สำรองขึ้นในห้องโดยสาร เมื่อเกิดเพลิงไหม้แบตเตอรี่สำรอง ลูกเรือที่ได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานที่กำหนด จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที 

ขนาดความจุของแบตเตอรี่ สำรอง Power Bank ที่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ คือ

ผู้โดยสารจะต้องนำแบตเตอรี่สำรองไปในรูปแบบสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง (Carry On Baggage) โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ได้กำหนดขนาดความจุของแบตเตอรี่สำรองที่นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ คือ

  • หากแบตเตอรี่สำรองมีขนาดความจุ ไม่เกิน 100 Wh (Watt-Hour) หรือ 20,000 mAh (milli ampere-hour) ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 20 ชิ้น
  • หากขนาดความจุเกิน 100 Wh (Watt-Hour) หรือ 20,000 mAh แต่ไม่เกิน 160 Wh (Watt-Hour) หรือ 32,000 ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น
  • แต่ถ้าขนาดความจุเกิน 160 Wh (Watt-Hour) หรือ 32,000 mAh จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ในทุกกรณี

ปัจจุบันมีเหตุการณ์แบตเตอรี่สำรองลุกไหม้บนห้องโดยสาร เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้สายการบินบางประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่น การห้ามชาร์จแบตเตอรี่บนเครื่องบิน และไม่ให้เก็บแบตเตอรี่สำรองบนพื้นที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ 

อย่างไรก็ตาม CAAT และสายการบินของไทย ยังใช้หลักเกณฑ์ตามมาตรฐานและคำแนะนำขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)

ทั้งนี้ CAAT แนะนำให้ผู้โดยสารตรวจสอบขนาดความจุของแบตเตอรี่สำรองและสภาพของแบตเตอรี่สำรองให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนการเดินทาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยทุกเที่ยวบิน