เปิดวิสัยทัศน์ 4 ผู้สมัครชิงเก้าประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคนใหม่

13 ม.ค. 2568 | 16:02 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ม.ค. 2568 | 06:16 น.

เปิดวิสัยทัศน์ 4 ผู้สมัครชิงเก้าประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือประธานสทท.คนใหม่ ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 มกราคมนี้

การเลือกตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ประธานสทท.คนใหม่) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มกราคม 2568 แทนนายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ หรือ โกจง ที่จะหมดวาระ หลังอยู่ในตำแหน่งนี้มา 2 สมัย เป็นเวลากว่า 4 ปี ซึ่งการเลือกตั้งประธานสทท.คนใหม่ ในสมัยนี้ มีผู้ลงแข่งขันทั้งหมด 4 คน “ฐานเศรษฐกิจ” ได้เปิดวิสัยทัศน์ 4 ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคนใหม่ มานำเสนอ

4 ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคนใหม่

4 ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธาน สทท.คนใหม่

โดยผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานสทท.คนใหม่ ทั้ง 4 คน ล้วนเป็นรองประธานสทท.ในปัจจุบัน ได้แก่ นาย ชัย อรุณานนท์ชัย สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย นายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลธนบุรีตรัง นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ผู้บริหารบริษัทนิกร มารีน กรุ๊ป และประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) และนายธเนศ วรศรัณย์ ประธานคณะกรรมการท่องเที่ยวคุณภาพสูง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

คุณแอ๊ด ชูวิสัยทัศน์ 5 พร้อม ยกระดับท่องเที่ยวไทย

นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ หรือ คุณแอ๊ด  ผู้บริหารบริษัทนิกร มารีน กรุ๊ป และประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) กล่าวว่า ด้วยอาชีพและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มากว่า 30 ปี

วิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์

ทำให้พร้อมเดินหน้าท่องเที่ยวไทย โดยได้วางวิสัยทัศน์ในการลงสมัครเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไว้ในนโยบาย 5 พร้อม ได้แก่   

  1. พร้อมประสานความร่วมมือ โดยผนึกกำลังสร้างเส้นทางท่องเที่ยวแห่งคุณภาพ
  2. พร้อมกระจายโอกาส ไม่ให้ความสำเร็จจำกัดอยู่แค่บางพื้นที่ ต้องส่งต่อสู่ทุกเขตพื้นที่
  3. พร้อมพลักดันการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบุคลากรสู่ความเป็นมืออาชีพที่เติบโตเคียงข้างกัน
  4. พร้อมยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยสู่จุดหมายปลายทางที่โลกต้องจับตา
  5. พร้อมเดินหน้าท่องเที่ยวไทย ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืนที่งดงามและเป็นหนึ่งเดียว

ทั้งนี้ที่ผ่านมาคุณแอ๊ด ในฐานะรองประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คลัสเตอร์ อันดามัน ได้ประสบความสำเร็จในการทำงานใน 8 เรื่อง ในปี 2566-2567 ได้แก่

  1. ปลดล็อคกฏหมายที่พักขนาดกลางและเล็ก โดยเข้าพบอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแก้ไขกฏหมายโรงแรมขนาดกลางและเล็กทั่วประเทศ
  2. ผลักดันโครงการอบรมมัคคุเทศก์  โดยช่วงหลังโควิด ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่อบัตรมัคคุเทศก์เป็นการชั่วคราวจนสำเร็จ
  3. มารีน่าชุมชม และกองทุนเพื่อการท่องเที่ยว ยื่นหนังสือถึงอดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน เรื่องมารีน่าชุมชน หรือแท็กซี่โบ๊ต เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่แออัดในภูเก็ต 
  4. โครงการเชื่อมโยง 3 ประเทศ (Two-Way) เชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมาเลเซีย,อินโดนีเซียและสิงคโปร์ ในรูปแบบ Two-way
  5. นโยบายฟรีวีซ่าอินเดีย
  6. การจัดการอันดามัน ทัวริสซึม เน็ตเวิร์ค 2023-2024 เชื่อมโยงผู้ประกอบการอันดามันกับทั่วประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ
  7. Andaman พร้อม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวภูมิภาคอันดามัน และ 8.สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยร่วมกับนกแอร์และแอร์เอเชีย มอบสิทธิสำหรับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในราคาสิทธิข้าราชการ

หมอสมชัย ชู 8 นโยบายขับเคลื่อนสทท.

นายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลธนบุรีตรัง กล่าวว่า ผมขอเสนอตัวเข้ามาทำงานให้กับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยจะผมจะขออยู่ข้างสมาชิก สทท.ทุกคน เป็นคนกลางกับทุกกลุ่มและยึดมั่นในนโยบาย เพื่อสมาชิกทุกท่าน ซึ่งจะเน้นขับเคลื่อนองค์กรใน 8 เรื่อง ได้แก่

  1. สภาต้องเป็นของทุกคนและเป็นที่พึ่งได้
  2. สมาชิกสภาต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและสง่างาม
  3. ยึดมั่นในหลักฎหมาย ข้อบังคับ และ พ.ร.บ.
  4. เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาและมีส่วนร่วมในการบริหารสภา
  5. สมาชิกต้องได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน
  6. สร้างความมั่นคงมั่งคั่ง และยั่งยืน ให้แก่สมาชิก
  7. แสวงหาความร่วม มือกับองค์กรต่างๆเพื่อสนับสนุนกิจการของสมาชิก
  8. สาขาของสภา ต้องเป็นผู้นำในด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดได้ ซึ่งที่ผ่านมาหมอสมชัย มีบทบาทในการทำงานในฐานะรองประธานสทท.ที่ขับเคลื่อนเรื่อของเมดิคัล ฮับ

นายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์

คุณธเนศ มุ่งนโยบาย “ Good ดี”

นายธเนศ วรศรัณย์ ประธานคณะกรรมการท่องเที่ยวคุณภาพสูง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการลงสมัครในครั้งนี้จะเดินหน้านโยบาย “ Good ดี” โดยร่วมมือขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้ ดี ไปด้วยกัน ภายใต้ความหลากหลายเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก ในทุกจังหวัด และสาขาอาชีพ ได้มีโอกาสสะท้อนมุมมองและการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้แก่

  1. GROWTH โตไปด้วยกันในทุกมิติอย่างยั่งยืน เพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนคน รายได้ และวันพัก กระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองน่าเที่ยว ผู้ประกอบการรายเล็กและชุมชนต้องได้ประโยชน์ มีทั้งเงินสนับสนุนและแหล่งเงินทุนในการพัฒนา
  2. OPPORTUNITY สร้างโอกาลใหม่ให้ท่องเที่ยวไทย ท่องเกี่ยวเชิงสุขภาพ ผู้สูงอายุ คนพิการ LGBTO+ จับคู่ตลาดต่างประเทศที่เหมาะสมกับแต่ละเมืองน่าเที่ยว ส่งเสริมตลาด MICE และการเที่ยวข้ามภาคการท่องเกี่ยวทางน้ำ Cruise, Yacht และในแม่น้ำลำคลอง
  3. OPTIMIZATION ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า ขับเคลื่อน Carbon Neutral Tourism  สร้างมูลค่าเพิ่มจากฐานชีวภาพและวัฒนธรรม มีกลไกดูแลแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ให้คำแนะนำภาครัฐในการลงทุนที่เหมาะสม
  4.  DEVELOPMENT พัฒนาจากอัตลักษณ์ไทยที่น่าภูมิใภูมิใจ พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการท่องเที่ยวพัฒนาคนในทุกระดับเพื่อรองรับอนาคต พัฒนา สทท. ให้เป็นที่รวมใจของคนท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งทั้งในและต่างประเทศ

ธเนศ วรศรัณย์

คุณชัย มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

นาย ชัย อรุณานนท์ชัย สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(TFOPTA) กล่าวว่า จะขออาสานำสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชื่อมโยงสมาชิกทุกพื้นที่ และสาขาอาชีพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน และถือประโยชน์ส่วนร่วมเป็นสำคัญ ซึ่งมีนโยบายที่จะมุ่งกระจายอำนาจหน้าที่การทำงานให้สมาชิกมีบทบาทอย่างทั่วถึง

ชัย อรุณานนท์ชัย

การบริหารงาน สทท.อย่างโปร่งใส เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และการยกระดับบทบาทของ สทท.ให้เป็นที่ยอมรับในทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะบูรณาการความร่วมมือองค์กรด้านการท่องเที่ยวทุกหน่วยงาน และผลักดันงบประมาณ นำเสนอโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกมิติให้กระจายไปสู่ภูมิภาค และเชื่อมโยงสมาชิกทุกพื้นที่และสาขาอาชีพ โดยมุ่งมั่นการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู้ความยั่งยืน

นอกจากนี้ จะเร่งแก้ปัญหาต่างๆ ในภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้โอกาสนำเสนอแผนและนโยบายเข้า กรอ.จังหวัด รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาแพล็ตฟอร์มเพื่อเป็นเครื่องมือทำการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ และการตลาดในรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว